ทริปนี้ไม่ได้ไปศัลยกรรม ไม่ได้ไปทุบหน้า หรือเติมฟิลเลอร์ใดๆ และเกาหลีก็ไม่ได้มีแค่นี้ค่ะ การไปโซลของเราครั้งนี้ ทำให้เราได้รู้ว่าคนเกาหลีใส่ใจเรื่องความงามภายนอกก็จริง แต่ข้างในก็ไม่ได้กลวง พวกเขายังสนใจศิลปะ ดีไซน์ และแฟชั่นแบบไม่ฉาบฉวย ซึ่งนั่นทำให้การเที่ยวในเมือง “โซล” เป็นเรื่องสนุกมาก

10397201294184

โซล (Seoul) เป็นชื่อเมืองหลวงของเกาหลีใต้ แต่มันดันไปพ้องกับการอ่านออกเสียงคำว่า Soul ที่แปลว่าจิตวิญญาณ สำหรับเราแล้ว การมาที่โซลก็เหมือนกับการมาสัมผัสถึงจิตวิญญาณและความคิดเบื้องลึกที่มันซุกซ่อนอยู่ในการใช้ชีวิตของผู้คน และบรรยากาศภายในเมือง ซึ่งมันดีมากๆ เลยค่ะ

10397222237288

และถ้าคุณคาดหวังจะเจอคอนเทนต์เกี่ยวกับแหล่งทุบหน้า เติมฟิลเลอร์ใดๆ ก็ตาม บล็อกนี้ไม่มีนะ เราจะพาไปเที่ยวโซลในแบบของคนรักศิลปะกันค่ะ แล้วก็แถมให้อีกนิดตามประสาผู้หญิง ก็คือเรื่องช็อปปิ้งเนี่ยล่ะ

67829825_1090161631177978_1271060438418718720_n

ครั้งนี้เราบินแบบสบายๆ กับ Korean Air ยิงตรงจากสุวรรณภูมิไปลงสนามบินนานาชาติอินชอนที่กุรงโซลเลยค่ะ และด้วยความที่ได้ราคาดีจาก Traveloka เราเลยจอง business class ไปเลย เพราะบินยาว 5 ชั่วโมงกว่าๆ ก็อยากจะลองนั่งๆ นอนๆ ให้สบายตัวกันบ้าง และเมื่อได้ลอง เราก็บอกกับตัวเองเลยว่า ชีวิตนี้ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะเก็บตังซื้อตั๋วชั้น business ให้ได้อีก เพราะมันทำให้การเดินทางเหนื่อยน้อยลงเยอะเลย67892398_2395156417234971_951753633123270656_n

เบาะเอนราบนอนได้ มีที่ให้เสียบปลั๊กชาร์จแบตมือถือ แล้วก็มีอาหารเกาหลีอร่อยๆ ยังไม่ต้องไปถึงเกาหลี ก็ได้สัมผัสความเป็นเกาหลีตั้งแต่บนเครื่องแล้วค่ะ

67357897_2399374216806831_2835239922204409856_n

จองตั๋วเครื่องบินไปโซลกับ Traveloka >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Seoul.SEOA/1

และ

อ่านรีวิว Korean Air Business class ได้ในบล็อก Traveloka >> 

https://blog.traveloka.com/th/internatonal-trip/korean-air-business/

ส่วนการตะลุยย่านฮิป ย่านอาร์ต ในโซล เราเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเป็นหลักค่ะ เพราะไปถึงได้เกือบทุกที่ในเมืองหลวงอย่างสะดวกสบาย เขาบอกว่ามีสถานีมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากนิวยอร์กเลยทีเดียว โดยทั้งหมดแบ่งเป็น 8 สาย รวมกว่า 328 สถานี ว้าว!

10397201621236

นอกจากการซื้อบัตรเที่ยวเดียวในแต่ละครั้งที่เดินทางแล้ว เราแนะนำให้ทุกคนซื้อบัตร T-money เอาไว้จะดีกว่า สามารถกดซื้อได้จากตู้ขายบัตรในสถานีรถไฟใต้ดินเลย เป็นเหมือนบัตรเติมเงิน ให้เราทยอยเติมเงินไว้เท่าที่จะใช้ก็ได้ค่ะ แล้วทุกครั้งที่เข้าสถานี ก็เพียงแค่แตะบัตร เงินในบัตรก็จะถูกหักไป ตอนออกจากสถานีก็แตะอีกทีนึง สะดวกมาก ไม่ต้องมาคอยซื้อตั๋วใหม่ทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังใช้ขึ้นรถเมล์ก็ได้ จ่ายค่าโดยสารกับรถแท็กซี่ก็ได้ หรือจะซื้อของในร้านสะดวกก็ได้อีกเช่นกัน10397201195195

เมื่อมีบัตรใบนี้แล้ว เราก็พร้อมเดินทางกันแล้วค่ะ มาดูกันว่า La Vie en Road พาไปฮิปสเตอร์ที่ไหนกันบ้าง

1.Seoul Museum of Art

10397203149371

พิพิธภัณฑ์ศิลปะกรุงโซล ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ City Hall อยู่ใจกลางกรุงโซลเลย ตัวอาคารเป็นอาคารเก่าของกงสุลเบลเยี่ยมที่ได้รับการรีโนเวทใหม่ แต่ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมคลาสสิกแบบปี 1900 ไว้ ด้านในจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย วันที่เราไปเขาจัดแสดง David Hockney

10397221673054

10397221622509

10397221741898

10397221446508

Seoul Museum of Art

เปิดอังคาร-ศุกร์ 10.00-20.00น. / เสาร์-อาทิตย์ 10.00-19.00น. ปิดวันจันทร์ ลงสถานีรถไฟใต้ดิน City Hall ทางออก 10

——————————–

2.Oil Tank Cultural Park

10397223315729

10459860775934

นี่คือสวนแห่งวัฒนธรรมที่นำ Tank น้ำมันมาทำเป็นพื้นที่แห่งความรู้ มีอยู่ประมาณ 6 แทงค์ในนั้น และต้นไม้ใหญ่เยอะมาก รวมถึงสนามทรายและสนามหญ้า ซึ่งมีของเล่นเด็กเพียบ เราจึงเห็นครอบครัวพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นที่นี่เต็มเลย

10397236766090

10397236926267

ที่นี่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนกันยายน 2017 แต่ละแทงค์ก็จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ กัน เช่น ตรง Glass Pavilion เป็นฮอลล์สำหรับจัดการแสดงหรือนิทรรศการด้วยเพดานกระจก บางแทงค์ใช้จัดการแสดงแบบเอาท์ดอร์ แล้วก็ยังมีห้องประชุมและคาเฟ่เกร๋ๆ ด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นโซนที่สร้างมาจากของเสียไม่ใช้แล้ว นำกลับมารีไซเคิลเป็นวัสดุใหม่ ถือว่าเป็นอาร์ตสเปซที่ผสานดีไซน์เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

10397223096221

10397223212810

10397223365891

Oil Tank Cultural Park

วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินลงสถานี World Cup Stadium แล้วเดินต่อประมาณ 900 เมตร

——————————–

 3.Dongdaemun Design Plaza

modern-616312_1280.jpg
ภาพโดย HJ Park จาก Pixabay

ดงแดมุนดีไซน์พลาซ่า ชื่อย่อของที่นี่คือ DDP ใครไม่มาที่นี่ถือว่าพลาดมากเลยค่ะถ้ามาเที่ยวโซล เพราะแค่ตัวตึกก็ดีไซน์ล้ำมากๆ แล้ว ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง ซาฮา ฮาดิด (Zaha Hadid) ข้างในตึกก็มีการจัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียนอยู่ตลอด รวมถึงโซนช็อปขายของดีไซน์เก๋ๆ ส่วนตอนกลางคืน ข้างนอกมีสวนกุหลาบ LED ที่มวลมนุษย์พากันแห่ไปถ่ายรูป แถมด้วยการเดินช็อปปิ้งตลาดกลางคืนต่อได้อีกจ้า

วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Dongdaemun History & Culture Park Station

——————————–

4.Hannam-dong / Yongsan-gu

10397200903329

ฮันนัมดง และยงซาน เป็นชื่อของย่านฮิปในโซลที่อยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งเราอยากให้คุณแวะไปใช้เวลาสักวันนึงเต็มๆ เพราะมีทั้งคาเฟ่ ร้านหนังสือ และแกลเลอรี่เก๋ๆ มากมาย

10397201014267

ร้านกาแฟที่เราอยากแนะนำคือ Sayoo ร้านกาแฟสุดฮิตของย่านนี้ ชื่อร้านแปลว่า “การครุ่นคิด” เหมาะกับการมานั่งจิบกาแฟและปล่อยความคิด มองวิวสวยๆ นอกร้านไปเพลินๆ ที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 เป็นที่รับออร์เดอร์กาแฟ ชั้นใต้ดินเป็นห้องมืดๆ เงียบๆ มีที่นั่งกับพื้นและหมอน บางครั้งใช้เป็นที่จัดนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ในขณะที่ชั้น 3 เปลี่ยนฟีลไปเลย เพราะเป็นห้องกระจก เห็นวิวสวยด้านนอก และมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา ชั้น 4 คือโซน Art Gallery จัดที่นั่งแบบเท่ๆ มีกล่องแบบวินเทจ แล้วก็ชั้นดาดฟ้า ซึ่งมีส่วนของบาร์เอาไว้นั่งจิบแชมเปญอีกด้วย

Dcq5vxoUwAMvEb6.jpg

วิธีเดินทาง: ลงรถไฟใต้ดินสถานี Hangangjin (สาย 6) Exit 3

———————————

4.Ehwa Womans University

10397222567705

มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก อยู่ในย่านซอแดมุน เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่หลายๆ คนนิยมมาเก็บภาพกัน เพราะดีไซน์ของตึกแต่ละตึกในมหาวิทยาลัยนั้นล้ำเลิศมาก สวยและถ่ายรูปสนุก คนที่ชอบถ่ายรูปธรรมชาติและสถาปัตยกรรม มาเดินที่นี่จะเจอมุมถ่ายเยอะมาก เช่น กำแพงกระจก บันไดใหญ่ๆ ตรงด้านหน้า แถมในฤดูใบไม้ร่วง จะมีใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งมหาวิทยาลัยเลย มาได้ตั้งแต่ 10.00-17.00น. แต่เขาจะปิดช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์จ้า

ถ่ายรูปเสร็จแล้ว เดินออกไปนอกมหาวิทยาลัยจะเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้ง ผู้หญิงมาจะกรี๊ดมาก เพราะเสื้อผ้าเอยอะไรเอย จะเน้นของผู้หญิง ทั้งสวยและราคาไม่แรง

10397222761200

1039722228422310397222475974

Ehwa Womans University

วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Ehwa Womans University Exit 2

———————————

6.Hongdae

10459527420677.jpg

1039722121840010397236377711

ดูงานอาร์ตและดีไซน์แบบเนี๊ยบๆ ตามแกลเลอรี่-คาเฟ่มาเยอะแล้ว เราอยากให้ทุกคนมาสัมผัสความอาร์ตที่มีชีวิตในย่านฮิปอย่างฮงแดกันบ้างค่ะ ฮงแดคือย่านมหาวิทยาลัย อยู่แถวมหาวิทยาลัยฮงอิก Hongik University เป็นแหล่งช็อปปิ้งเสื้อผ้าวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์สตรีท และรวมแบรนด์โลคอลของเกาหลีไว้เต็ม เราก็จะได้เห็นแฟชั่นดีไซน์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ว่าคนเกาหลีเขาชอบแต่งตัวแบบไหน หรือบ้าคลั่งแฟชั่นอะไรกันบ้างตอนนี้

1039722204216810397221926794

ส่วนในช่วงกลางคืนก็จะยิ่งคึกคักมาก เพราะการแสดงความสามารถบนท้องถนน เราก็จะได้เจอเด็กๆ เกาหลีที่มีพรสวรรค์ ทั้งการร้องเพลง เล่นดนตรี เต้น บางคนก็เอาเพลงที่แต่งเองออกมาโชว์ มาเล่น แล้วก็มีคนมานั่งให้กำลังใจเต็มเลย

วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Hongik University

10459527472921.jpg

——————————–

7.Myeong-dong

ข้อสุดท้ายนี้เอาใจสายช็อปโดยเฉพาะ มาที่นี่ต้องระวังอย่างเดียวเลยคือเงินในกระเป๋าจะละลายหายไปกับการช็อปปิ้งอย่างไม่รู้ตัว เมียงดงก็เหมือนสยามสแควร์บ้านเรา มีของทุกอย่างที่อยากตามล่า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า เรียกได้ว่ารวมสกินแคร์ทุกแบรนด์ของเกาหลีมาไว้ที่นี่ และตอนกลางคืนจะมีถนนทั้งเส้นที่เต็มไปด้วย สตรีทฟู้ดอร่อยๆ ไม่ต้องพูดเยอะ ไปดูรูปกันเล้ย

10397237455490

10397237330557

10397237203211

1039720278223210397202649519103972024316771039720232609210397202259000

วิธีเดินทาง: ลงรถไฟใต้ดินสถานี Myongdong

อัญวรรณ ทองบุญรอด นักเขียน/นักดนตรี เจ้าของผลงานหนังสือ 'เวียนนา ลาทีโด' นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป