Home Escape เมืองทางใต้ของฝรั่งเศสที่คนหลงรักของวินเทจต้องไปเยือน

เมืองทางใต้ของฝรั่งเศสที่คนหลงรักของวินเทจต้องไปเยือน

DSCF0997.JPG

วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองทางใต้ของฝรั่งเศสที่เป็นสวรรค์ของคนรักของวินเทจ…

นั่นก็คือ L’Isle sur la Sorgue (ลิลล์ ซูร์ ลา ซอร์ก) ชื่อเมืองนี้เรียกค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาฝรั่งเศส (หรือแม้แต่คนที่รู้ฝรั่งเศสเองบางทีก็ยังลิ้นพันกันในการออกเสียง)

เมืองนี้อยู่ในแคว้นโพรวองซ์ เป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยยุคกลาง มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เมื่อเห็นกังหันน้ำแบบนี้แสดงว่าเราได้มาถึงเมืองนี้แล้ว โดยทั้งหมดจะมี 14 อัน ลองตามหาดูกันเล่นๆ ได้ ในจุดต่างๆ ของเมือง

ไม่ว่าจะอยู่ที่เมืองไหนในแคว้นโพรวองซ์ ทุกคนสามารถจับรถไฟ TER มาที่นี่ได้ในเวลาไม่กี่นาที บรรยากาศของเมืองจะเป็นเมืองเก่า สิ่งก่อสร้างในสไตล์ยุคกลางยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยมีร้านรวงที่ขายของน่ารักๆ เต็มไปหมดเลย ที่เห็นเยอะๆ ก็คือพวกครีมหรือสบู่ต่างๆ ที่ทำจากพืชพรรณที่ปลูกในแคว้นโพรวองซ์ นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝาก ทั้งกลิ่นหอมแล้วก็แพ็กเกจจิ้งน่ารักมากเลย

เราเดินผ่านร้านไอศกรีมโฮมเมด อดใจไม่ได้ที่จะเข้าไปลิ้มลองรสชาติซะหน่อย อยากบอกว่าแม้แต่ในวันที่อากาศหนาว คนที่นี่เขาก็ชอบทานไอศกรีมกันนะ

บางร้านรวงมีการเอาของลดราคามาจัดวางไว้หน้าร้านเรียกลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นพวกของแต่งบ้าน หมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดเท้า ผ้าเช็ดมือ เราเองได้ปลอกหมอนมา 2 ใบ แล้วก็พรมเช็ดเท้าผืนหนึ่ง ราคาถูกแบบบอกใครก็มีแต่คนไม่เชื่อว่าซื้อจากฝรั่งเศส แถมเป็นลายแบบเวสเทิร์นๆ ที่บ้านเราไม่มีด้วย

เราเดินผ่านมิวเซียมแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Musée du jouet et de la poupée ancienne เป็นมิวเซียมตุ๊กตาและของเล่นเก่าหลากหลายรูปแบบ อย่าว่าแต่พาเด็กมาเลย ผู้ใหญ่อย่างเรา เมื่อก้าวเข้าไปก็รู้สึกได้ย้อนวัยกลับไปในโลกของเด็กอีกครั้ง มีตุ๊กตาเยอะมากกกก บางแบบก็น่ารัก บางแบบก็สยองเบาๆ 555

ส่วนคนที่ตามหาร้านของวินเทจละก็ บอกเลยว่าร้านขายของเหล่านี้มีอยู่ทั่วทั้งเมืองเลยจริงๆ อย่างร้านแรกที่เราเจอ ก็อยู่ติดกับสถานีรถไฟ พอเหยียบเข้าเมืองนี้ ก็จะเห็นป้าย Village des Antiquaires de la Gare แปลว่าหมู่บ้านของแอนทีกที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟนั่นเอง แค่ร้านแรกร้านนี้ ก็ดูดเวลาเราไปเกือบชั่วโมง ก็เพราะว่ามันมีอะไรให้เลือกให้ดูเยอะมากกก

เราเดินมาต่อกันที่ Galerie Arts of World ร้านนี้รวบรวมงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์

แวะนั่งพักเหนื่อยสักแพ่บ หลังจากที่ตระเวนดูของเก่ามาหลายร้านจนมีความมึนหัวเบาๆ แต่การได้ถูกโอบล้อมไปด้วยของเก่าสวยๆ แบบนี้ รู้สึกมีความสุขมากๆ เลยล่ะ

เก้าอี้พวกนี้ดูเผินๆ เหมือนงานอาร์ตอินสตอลเลชั่นใช่ไหมคะ แต่ที่จริงเป็นเก้าอี้เก่าที่ร้านนำมาซ่อมแซมและตกแต่งใหม่ ไม้นี่เป็นไม้เก่าหลายสิบปีแล้ว ส่วนผ้าก็เป็นลวดลายโบราณของฝรั่งเศส ลองไปนั่งฟังเจ้าของร้านเล่าที่มาให้ฟังแล้วจะสนุกมาก เหมือนฟังนิทาน และเขาก็เล่าอย่างสนุก มันไม่เหมือนการขายของเลย เหมือนมานั่งคุยกัน แชร์กันกับคนที่หลงใหลของเก่าเหมือนๆ กัน

กระจกอันนี้เก๋เพราะทำจากหินอ่อน ถ้าเช็ดบานกระจกให้ใสหน่อยก็จะเลิศเลอ แต่ถ้าขนกลับเมืองไทย คงจะโดนค่าส่งอ่วมแน่ๆ เพราะน้ำหนักไม่ใช่น้อยเลย

ร้านนี้คือหนึ่งในร้านที่เราชอบมากที่สุดของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ และก็คิดว่าน่าจะถูกใจคุณแม่บ้านหลายๆ คนที่ชอบการเย็บปักถักร้อย เพราะที่นี่เป็นเหมือนคลังผ้าเก่าของฝรั่งเศส เราชอบในความลวดลายวินเทจของผ้า ดูเป็นเอกลักษณ์มากๆ

เขามีการนำผ้ามาตกแต่งเป็นลวดลายของลิ้นชักไม้ ชิ้นนี้น่ารักมากเลยค่ะ แต่ราคาไม่ค่อยน่ารักเท่าไร ก็เลยได้แค่ถ่ายรูปมาเก็บไว้เป็น inspiration

ม้วนผ้าเป็นตั้งๆ มีเป็นร้อยๆ ม้วน แต่ละม้วนลายไม่เหมือนกันเลยค่าาา ทำยังไงดี มือไม้สั่น ใจเต้นรัว จะเอาไปเย็บอะไรดีน้า

ตัวเจ้าของร้านเองก็ชื่นชอบงานฝีมือมากๆ เธอนำผ้าเก่าเหล่านี้มาเย็บเป็นปลอกหมอนบ้าง ร่มบ้าง ขอคำแนะนำในการเย็บหรือการแมตช์ลายผ้าต่างๆ ก็ไม่มีหวง ใจดีสุด

อันนี้คือการ์ดของเล่นโบราณ ในยุคที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนและเกมกด ใครรู้บ้างว่าเขาเล่นกันยังไง

ส่วนนี่คือกระดุมสวยๆ ซึ่งเป็นของเก่าเหมือนกัน แค่ไปนั่งค้นนั่งแมตช์ เวลาก็ผ่านไปจนเย็นย่ำ เงยหน้าขึ้นมาอีกที อ้าวข้างนอกฟ้ามืดแล้ว เอาเป็นว่าปักหมุดที่นี่ไว้ ถ้ามีโอกาสจะต้องกลับมาอีกแน่ๆ ขั้นแรกไปฝึกออกเสียงชื่อเมืองให้คล่องก่อน “ลิลล์ ซูร์ ลา ซอร์ก”  🙂

อัญวรรณ ทองบุญรอด นักเขียน/นักดนตรี เจ้าของผลงานหนังสือ 'เวียนนา ลาทีโด' นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป

Exit mobile version