

เบื้องหลังบานประตูไม้ที่ใหญ่และหนัก คือโลกแห่งชิ้นงานเซรามิกที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ นก ต้นไม้ ดอกไม้ ถูกปั้นขึ้นมาจากดินซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติเช่นกัน มันจัดวางอยู่ตามซอกหลืบของพื้นที่ เดินมามุมหนึ่งก็เห็นสิ่งหนึ่ง เลี้ยวไปอีกมุมก็เจออีกอย่างหนึ่ง เหมือนเรากำลังเข้ามาในโลกวันเดอร์แลนด์ ซึ่งมีอะไรให้เราค้นหาอย่างน่าตื่นเต้น

ร้าน ยานณกาล (Yarnnakarn) คือเซรามิกสตูดิโอหน้าปากซอยนางลิ้นจี่ 4 เป็นโลเกชั่นกลางเมืองที่มีรถราขวักไขว่ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพอเราเปิดประตูบานใหญ่เข้ามาแล้ว ด้านในเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัว โดยมีเหล่าของเซรามิกจิ๋วเป็นตัวดึงดูดเราให้เพลิดเพลินไปกับรูปแบบของมัน ราวกับเราได้เดินทางย้อนเวลา อย่างที่ความหมายของชื่อร้านบอกไว้ ‘ยานณกาล’ = ‘ยานพาหนะที่พาเราเดินทางผ่านเวลา’
แบรนด์เซรามิกยานณกาลก่อตั้งมาได้จะครบ 10 ปีแล้วในปี 2563 แต่เพิ่งย้ายร้านจากตลาดนัดสวนจตุจักร ใกล้อตก. มาอยู่ในตึกแถวที่ซอยนางลิ้นจี่ได้เพียงปีเดียว โดยคุณกรินทร์ พิศลยบุตร ศิลปินนักออกแบบที่เรียนจบด้านเซรามิกมาโดยตรง และคุณนก พชรพรรณ ตั้งมติธรรม ภรรยาของเขาผู้ที่เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์พื้นที่แห่งนี้

พื้นที่ชั้น 1 ขายของแต่งบ้านที่ทำจากเซรามิก ซึ่งที่นี่ทำเองทั้งหมดตั้งแต่การผสมวัสดุ การออกแบบและขึ้นรูป เป็นงานแฮนด์เมด จึงมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร “ยานณกาลเน้นทำเซรามิกเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดที่สุด เราทำทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ชิ้นงานจึงมีเฉพาะที่นี่” คุณนกเล่าที่มา


“ในมุมมองของเรา เซรามิกไม่เหมือนกันสักชิ้น มันทำลอกเลียนแบบไม่ค่อยได้ เพราะดินเป็นวัสดุธรรมชาติ ในดินมีแร่ธาตุที่ฝังตัวอยู่ในโลกมาเป็นกี่ล้านปีแล้วก็ไม่รู้ อันนี้มีธาตุเหล็กเยอะ อันนี้มีทรายเยอะ ทำให้เวลาทำเซรามิก ถ้าเป็นกระบวนการแฮนด์เมดจริงๆ สีสันรูปทรง มันจะคล้าย แต่ว่าไม่เหมือน ขึ้นอยู่กับ material นั้นๆ และขึ้นอยู่กับเวลาเผาด้วย อันนี้อยู่ชั้นบน อันนี้อยู่ใกล้เปลวไฟ ทำให้ทุกอันมีความคล้าย แต่ไม่เหมือน ตรงนี้เรามองว่าเป็นเสน่ห์”
sdr
นอกจากชิ้นงานที่สวยงามน่ารักแล้ว เรารู้สึกว่าการจัดตกแต่งร้านก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน แม้ว่าจะเป็นของกระจุกกระจิกวางเรียงรายกันอยู่จนละลานตา แต่เราไม่ได้รู้สึกถึงความรกหรืออึดอัด ในทางกลับกัน เรากลับรู้สึกว่ามันน่าค้นหา น่าเดินดูและหยิบจับไปซะทุกชิ้น แถมแต่ละมุมก็ดูมีเรื่องราวของมันเอง

“ตอนทำตึกนี้ก็รีโนเวทเยอะเหมือนกันนะคะ คือมันอยู่กลางเมือง แต่เราชอบเรื่องธรรมชาติกับมนุษย์ เราก็เลยเจาะช่องให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา และมองเห็นธรรมชาติข้างนอกได้ เห็นต้นไม้ข้างนอก แต่ก็บังไม่ให้เห็นมุมที่เป็นรถวิ่งเยอะๆ” คุณนกอธิบายการออกแบบพื้นที่ของร้าน

“คือโอเค Object มันต้องสวย แต่เราก็ต้องนึกถึงตอนมันไปวางด้วย ตอนเราทำร้าน เราคิดถึงการสร้างสเปซให้เหมาะที่จะโชว์งาน การที่ของเราเป็นชิ้นเล็กและมีเยอะ เราเลยพยายามทำให้มีซอกหลืบเยอะๆ มีช่องเล็กช่องน้อย อย่างเดินเข้าไป จะเห็นอันนี้บังอยู่ แต่พอเดินมาข้างหลัง เห็นอีกห้องหนึ่งซ่อนอยู่ ทำให้เวลาเดินแล้วเป็นส่วนตัว เช่นพอเดินมามุมนี้ เราไม่ได้เห็นคนอื่นที่เดินอยู่ในร้าน เราก็จะเห็นของชัด เพราะเราพยายามทำซอก ให้แต่ละอันวางแล้วมีพื้นที่ของมันเอง และเวลาเอาของเหล่านี้ไปตกแต่งที่ไหน มันก็สามารถสร้างชีวิตหรือเปลี่ยนบรรยากาศของพื้นที่ได้” เธอเล่าว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ ซึ่งต้องทำงานกับบ้านหลายสไตล์ โคโลเนียล โมเดิร์น หรือแม้แต่มินิมัลซึ่งเป็นเทรนด์ของตอนนี้ บางครั้งสเปซที่อาจจะดูเรียบทื่อไปหน่อย แต่พอมีของตกแต่งเหล่านี้เข้าไปเสริม ก็ช่วยให้ดูมีเรื่องราวและสร้างบรรยากาศที่เปลี่ยนไปได้

ขณะที่ชั้น 2 เป็นแกลเลอรี่สเปซ ใช้สำหรับจัดกิจกรรมพิเศษอย่างเช่น จัดแสดงนิทรรศการศิลปะ ส่วนชั้น 3 เป็นคาเฟ่ซึ่งมีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ อยู่ร่วมกับ selected shop ขายสินค้าไลฟ์สไตล์แนววินเทจในคอนเซ็ปต์ collective memory คัดสรรโดยเพื่อนของคุณกรินทร์ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมออกแบบตึกนี้มาด้วยกัน มีตั้งแต่เสื้อผ้า แอ็กเซสเซอรี่ รองเท้า ไปจนถึงเครื่องเขียน และที่พิเศษก็คือทุกเย็นวันศุกร์-เสาร์ จะมีป็อปอัพบาร์เข้ามาสร้างสีสัน เป็นแหล่งแฮงเอาต์ให้เหล่าคนทำงานสร้างสรรค์มารวมตัว
ยานณกาลอาจไม่ใช่แค่ยานพาหนะที่พาเราเดินทางผ่านเวลา แต่ทำให้เรารู้จักที่จะเอนจอยกับเวลาในทุกขณะด้วย ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ในทุกเวลาของการใช้ชีวิตจะมีแง่งามความละเอียดให้เราได้สัมผัสเสมอ
Yarnnakarn
เปิดบริการ: วันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 11.00-19.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-19.00 น.
More info: https://www.facebook.com/yarnnakarn และ www.yarnnakarn.com