แม่น้ำเจ้าพระยาคือแม่น้ำสายหลักของเมืองไทย ต้นน้ำมาจากภูเขาสูงทางภาคเหนือ ไหลลงมาเป็นแม่น้ำหลายสายก่อนมารวมกันเป็นสายเดียวที่ปากน้ำโพ นครสวรรค์ แล้วก็ไหลผ่านกรุงเทพฯ ไปออกสู่อ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรปราการ มันจึงเปรียบเหมือนสายเลือดเส้นหลักที่ให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตและสัญจรไปมา จนกรุงเทพฯถูกขนานนามว่าเป็นเวนิสตะวันออก ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมันบอกเล่าความเป็นตัวตนของกรุงเทพฯได้ดีมาก

เราคิดว่าคนกรุงเทพฯ ผูกพันกับแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ว่าในทางใดทางหนึ่ง สำหรับเรา เคยนั่งเรือเลี่ยงรถติด เคยนั่งร้านกาแฟริมแม่น้ำเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เคยนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยววัด และแม้แต่เคยล่องเรือสำราญ ทานอาหารและสังสรรค์ แต่แม้จะอยู่กับเจ้าพระยามานาน เราก็ยังรู้สึกผ่อนคลายสบายใจทุกครั้งที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศแถวๆ แม่น้ำ และยังสามารถมองสิ่งก่อสร้างริมน้ำทั้งยุคเก่า ยุคใหม่ รวมไปถึงวิถีชีวิตผู้คนได้อย่างไม่เคยเบื่อ เราว่านี่คือเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ทั้งคนท้องถิ่นและคนต่างชาติหลงใหล

กิจกรรมล่องเรือในแม่น้ำดูเหมือนจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ จากการมาของโควิด-19 จนกลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวใหม่ ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่ทั่วโลก เพราะเรือเหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัย เราจะได้สัมผัสสายลม แสงแดด มีความปลอดโปร่ง มีความเป็นส่วนตัวจึงเป็นการรักษาระยะห่างทางสังคม ทำให้ตลาดเรือเพื่อสันทนาการตอนนี้มีอัตราการเติบโตที่สูง ทั้งการล่องเรือหรูลำใหญ่และเรือสปีดโบ๊ต

ล่าสุด เรามีโอกาสไปงานเปิดตัวเรือแม่น้ำ Chris-Craft เรือลักชัวรี่สัญชาติอเมริกันที่นำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด อีกหนึ่งธุรกิจในกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและอาเซียน ก็ต้องบอกว่าเปิดโลกมากๆ เพราะเขาให้ข้อมูลว่าคนไทยมีแนวโน้มอยากเป็นเจ้าของเรือส่วนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มคนที่มั่งคั่ง มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่าง กล้าตัดสินใจซื้อและมองหาความคุ้มค่า

เรามาเยี่ยมชมโชว์รูมของเรือคริส-คราฟท์ ถึงที่โครงการริเวอร์เดล มารีน่า จ.ปทุมธานี รู้สึกทึ่งเมื่อเห็นโชว์รูมและโรงต่อเรือที่ออกแบบไว้อย่างโดดเด่น ด้วยโถงสูงเปลือยโครงสร้างและแสงธรรมชาติที่เปิดออกเป็นแนวเอียง ที่นี่เป็นศูนย์บริการครบวงจรเพื่อรองรับเทรนด์การล่องเรือหรูโดยเฉพาะ สามารถจัดแสดงเรือได้สูงสุด 6 ลำ ชั้นล่างเป็นเลานจ์ต้อนรับลูกค้าในบรรยากาศผ่อนคลาย มีห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัวเพื่อรีเฟรชหลังจากลูกค้านำเรือกลับเข้ามา ขณะที่ชั้นบนมีมุม Sunset Balcony เหมาะกับการสังสรรค์หรือดินเนอร์โรแมนติก พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา

แบรนด์นี้มีประวัติยาวนานถึงกว่า 149 ปี ก่อตั้งช่วงปีค.ศ. 1874 โดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สมิธ ผู้ที่หลงใหลในเรือสปอร์ตและสร้างเรือลำแรกด้วยมือของตัวเองเมื่ออายุได้เพียง 13 ปีเท่านั้น เรือแต่ละลำของคริส-คราฟท์มีการออกแบบที่ประณีตด้วยวัสดุที่คัดสรรมาเฉพาะ อย่างการใช้งานไม้สักแท้ผสมผสานกับงานสเตนเลสเกรดคุณภาพสูง บนรูปทรงที่ทันสมัยและมีดีไซน์แบบเรียบหรู เป็นการส่งต่อทางแพสชั่นและมรดกทางภูมิปัญญาที่มารวมกับนวัตกรรมสมัยใหม่ กลายเป็นเรือแม่น้ำลำสวยและเต็มไปด้วยคุณค่าราวกับงานศิลปะ

ปัจจุบันเรือแม่น้ำของคริส-คราฟท์ มีอยู่ 3 รุ่นหลักๆ ได้แก่ Launch Series, Catalina Series และ Calypso Series โดยมีรุ่นย่อยแบ่งตามขนาดและลักษณะของเรือ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและสไตล์การขับขี่เรือของผู้ขับแต่ละคนมากที่สุด

และจากริเวอร์เดล มารีน่า ตรงนี้ ก็เป็นจุดที่เหมาะแก่การล่องเรือมาก เพราะฝั่งหนึ่งสามารถล่องเรือเข้าเมืองไปชมสถานที่ประวัติศาสตร์วัดวาอารามต่างๆ บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ในขณะที่อีกฝั่งก็สามารถล่องไปได้ถึงเกาะเกร็ด หรือจะชิลยาวไปถึงอยุธยา หาของกินอร่อยๆ นั่งร้านกาแฟเพลินๆ หรือพักค้างคืนที่โรงแรมสวยๆ สักแห่ง ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมผ่อนคลายที่เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจมากๆ พลิกโฉมไลฟ์สไตล์การเดินทางสำหรับคนที่รักความเป็นส่วนตัว

• รีวิว sala ayutthaya ที่พัก 5 ดาวพร้อมวิวพระปรางค์กลางเมืองอยุธยา
• 8 เหตุผลที่ต้องมาดินเนอร์ที่ sala rattanakosin bangkok ดูสักครั้ง

คริส-คราฟท์ ประเทศไทย

โทร 02-430-6688

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/chriscraft.th