Namia River Retreat ฮอยอัน ที่พักริมน้ำ Thu Bon River เชิญชวนให้มาสัมผัสการใช้เวลาอย่างช้า ท่ามกลางป่าป้อง (Nipa Forest) กับแนวคิด Wellness-Inclusive Stay สปาสมุนไพร Hammam และอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นแบบ farm-to-table
เรามาถึง Namia River Retreat ตอนบ่ายแก่ๆ ในวันที่ฝนเพิ่งหยุดตกไป เรือ shuttle boat ของรีสอร์ตมารับเราที่ท่าเรือใกล้เมืองเก่าฮอยอัน ตรงร้าน Mango Room เป็นคำขอพิเศษที่เราแจ้งกับทางรีสอร์ตไว้ว่าอยากจะสัมผัสบรรยากาศการเดินทางทางแม่น้ำ Thu Bon แม่น้ำสายประวัติศาสตร์ที่สมัยก่อนมีเรือจำนวนมากเข้ามาทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า ด้วยความที่ฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แม่น้ำสายนี้มีเสน่ห์ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ถ้าหากใครมาเที่ยวฮอยอันก็จะได้เห็นไฮไลท์ของการเที่ยวเมืองเก่าในช่วงกลางคืน จะมีเรือหลายลำจุดโคมไฟสวยล่องอยู่ในแม่น้ำ เพื่อบริการนักท่องเที่ยว แต่ช่วงกลางวันแม่น้ำไหลเอื่อย ดูสงบ และผ่อนคลาย รีสอร์ตริมน้ำอย่าง Namia River Retreat จึงนำเสน่ห์ตรงนี้มาสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่ให้เราได้ ‘เข้ามาอยู่’ กับธรรมชาติอย่างตั้งใจ เรารู้สึกเหมือนไม่ใช่แค่การเข้าพักทั่วไป แต่ราวกับได้มาเข้าร่วม artist residency


ไพรเวตพูลวิลล่าที่เชื่อมต่อมุมมองสู่แม่น้ำและป่าป้อง
ห้องพักของ Namia River Retreat เป็นไพรเวตพูลวิลล่าทั้งหมด ทั้งแบบที่เป็นวิวป่าป้อง (nipa forest) หรือป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยต้นจาก (ที่เมืองฮอยอัน โดยเฉพาะแถว Cam Thanh Village เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Nipa Palm Forest ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคกลางของเวียดนาม) แล้วก็แบบวิวแม่น้ำ ไปจนถึงพูลวิลล่าขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว และฮันนีมูนพูลวิลล่า


แน่นอนว่าทุกห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัว แล้วก็ยังมี sunken bathtub ภายในห้องนอนเลย ซึ่งเราสามารถเปิดประตูกระจกให้โล่งและรับลมธรรมชาติในเวลาเดียวกัน เราจะได้โมเมนต์ของการลืมโลกภายนอก แสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าโปร่ง เสียงน้ำกระเซ็นเบาๆ เราสูดลมหายใจลึกๆ และรู้สึกถึง ‘พื้นที่ว่าง’ ที่ค่อยๆ เติมเต็ม



ภายในวิลล่าตกแต่งแบบคลีน เรียบง่ายที่สุด มันเหมือนเอาความยุ่งเหยิงในหัวเราออกไปทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ก็เน้นการใช้วัสดุไม้ เชื่อมต่อกับระเบียงไม้ที่ไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหน ก็รู้สึกผ่อนคลายไปหมด เรารู้สึกถึงเสน่ห์ของความเงียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


โลกแห่งการเยียวยาที่ Lumina Spa
ที่ Namia River Retreat เขามีแนวคิด ‘Wellness-Inclusive Stay’ คือทุกการเข้าพักจะรวม wellness journey 90 นาทีสำหรับแขกแต่ละท่าน ประกอบด้วยฮัมมัมหรืออบไอน้ำสมุนไพร (hammam / herbal steam) 30 นาที และทรีตเมนต์ (traditional therapy) อีก 60 นาที ในส่วนของฮัมมัมก็จะเป็นการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก โดยเราเลือกได้ว่าจะโฟกัสที่ใบหน้าหรือลำตัว พนักงานอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดมาก เพื่อให้แน่ใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง

เขาถึงขั้นพาเราไปชมการปรุงสมุนไพรพื้นบ้านของเวียดนาม อธิบายสรรพคุณของแต่ละชนิด ซึ่งเป็นความรู้โบราณของ Southern Herbology (Thuốc Nam) เข้ากับแนวทางการบำบัดสมัยใหม่ ก่อนจะพาเราเข้าไปยังห้องฮัมมัมและรับความอุ่นจากไอน้ำที่อัดแน่นด้วยส่วนผสมสมุนไพรเหล่านั้น ให้ร่างกายและจิตใจกลับมาสมดุลและเกิดความสงบ


หลังอบไอน้ำจะทำการสครับผิว (soft scrubbing) ด้วยเนื้อสมุนไพร ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แล้วล้างผ่านน้ำตามจังหวะที่กำหนดเพื่อให้สมุนไพรซึมเข้าสู่ผิวหนัง เสร็จแล้วก็ไปที่ห้องนวดซึ่งเราเลือกได้ว่าต้องการนวดสไตล์เวียดนาม การกดจุด (acupressure) การนวดหน้า (facial reflexology) หรือการทำ cupping therapy ฯลฯ


ไม่น่าเชื่อนะว่าแค่การอาบน้ำซึ่งดูเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันทั่วไป แต่พอได้ทำอย่างตั้งใจด้วยกระบวนที่ละเอียดอ่อน เรารู้สึกว่ามันคลีนทั้งร่างกายและจิตใจ มันล้างเอาความเครียด ความกังวลออกไปหมด ก่อนเข้าสู่การบำบัดที่ล้ำลึกด้วยการนวด พอเดินออกจากสปา เหมือนผิวเบา ร่างกายคลายส่วนที่เกร็งตึง ใจสงบ และเป็นอิสระ คืนนั้นหลับสบาย…
บทสนทนาช้าๆ ระหว่างคนกับธรรมชาติ
การใช้ธรรมชาติบำบัดในแบบของ Namia River Retreat ถูกส่งผ่านในหลายกิจกรรมให้แขกที่เข้าพักได้เลือกตามแบบที่ตัวเองชอบ เช้าตรู่จะมีคลาสนั่งสมาธิ โยคะ หรือออกไปขี่จักรยานตามหมู่บ้านละแวกนั้น เราเลือกการขี่จักรยานที่ต้องใช้เวลาซ้อมอยู่ภายในรีสอร์ตให้คุ้นชินกับจักรยานสักหน่อย จากนั้นก็ขี่ลัดเลาะไปตามทางซึ่งจะมีไกด์เป็นคนนำ เส้นทางก็จะผ่านป่าป้อง (nipa forest) เราจอดลงไปดูต้นจากซึ่งเป็นพืชที่เมื่อก่อนกรุงเทพชานเมืองก็มีเยอะ แต่ตอนนี้พื้นที่ที่ปลูกก็น้อยลงไปมาก

จากนั้นก็ผ่านทุ่งนาโล่งกว้าง ผ่านบ้านคนที่มีหมาออกมาชะโงกดูเราเป็นระยะ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะไกด์บอกว่าหมาที่นี่ชินกับนักท่องเที่ยวแล้ว และมีตัวหนึ่งเขาวิ่งไปกับขบวนจักรยานของเราด้วย อาจจะยากนิดหน่อยตอนเอาจักรยานข้ามถนน เพราะช่วงเช้า ผู้คนไปเรียน ไปทำงานกัน รถราก็จะเยอะและก็ไม่ค่อยยอมหยุดให้คนข้ามเท่าไร


นอกจากนี้กิจกรรมในช่วงเย็น ทางรีสอร์ตแนะนำ Sunset Cruise ซึ่งจะเป็นเรือไม้ลำขนาดกลาง ล่องไปตามแม่น้ำ Thu Bon ไปยังเมืองเก่าของฮอยอัน และมี Mixologist มาผสมเครื่องดื่มเย็นๆ ให้บนเรือ พร้อมกับดูวิวพระอาทิตย์ตก และสำหรับใครที่อยากจะสำรวจธรรมชาติให้ลึกซึ้งขึ้นอีกหน่อย Paddle Around the Islet เป็นอีกหนึ่ง signature experience ของที่นี่ เป็นการพายเรือคายัคหรือแพดเดิลบอร์ดรอบเกาะ Cồn Ba (Ba Islet) เกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำ Thu Bon ที่รีสอร์ตตั้งอยู่ ตามเส้นทางป่าป้อง (Nipa Palm Forest) และลำน้ำสาขาเล็กๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง โดยมีไกด์จากรีสอร์ตคอยเล่าถึงระบบนิเวศของป่าจาก นกน้ำท้องถิ่น และวิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่

กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เรารู้สึก ‘ได้อยู่กับธรรมชาติ เคลื่อนไหวอย่างช้า และเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวโดยไม่เร่งเวลา’
รสชาติและวัตถุดิบ การกินอย่างตั้งใจ
อาหารที่ Namia เสิร์ฟ (ไม่ว่าจะเป็นที่ห้องอาหาร Mia Merchant หรือ Nam Eatery) ต่างก็ร้อยเรียงเรื่องราวของท้องถิ่น ใช้วัตถุดิบที่ปลูกในท้องถิ่นและจากแหล่งวัตถุดิบที่มีความใกล้ชิดกับชุมชน รสชาติแบบพอดี คือเพียงพอที่จะบอกเล่าเรื่องราวของดิน น้ำ แดด และมือของชาวบ้าน สะท้อนแนวคิด slow living และ farm-to-table

มื้อเช้าจะมีบุฟเฟต์ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ เริ่มจากน้ำผลไม้และสมุนไพรหลากหลายแบบ มีกาแฟเวียดนามหรือสมุนไพรท้องถิ่นชงร้อน และยังมีข้าวต้มเวียดนามที่ปรุงอย่างใส่ใจรายละเอียด ไปจนถึงขนมปังอบเองและแยมทำจากผลไม้ในพื้นที่ ขณะที่ผักสดก็มาจากสวนของรีสอร์ต โดยเรายังสามารถสั่งอาหารเพิ่มตามเมนู a la carte ได้ด้วย

การเริ่มต้นมื้อเช้าที่นี่ เหมือนการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความเคารพต่อธรรมชาติรอบตัว
หลังจากเข้าพักที่นี่ เราเข้าใจความหมายของคำว่า Retreat ที่ไม่ใช่การหนีออกจากโลก แต่คือการถอยกลับมาหาตัวเอง Namia River Retreat นำเสนอ ‘พื้นที่ว่าง’ ที่ให้เราหายใจได้เต็มปอด ได้ฟังเสียงของชีวิตที่มักถูกกลับด้วยความเร่งรีบในเมือง และเมื่อถึงเวลาจะกลับ เรารู้สึกเหมือนกำลังออกจากบ้านของตัวเอง มากกว่าที่พักชั่วคราวแห่งหนึ่ง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://namiariverretreat.com และจองห้องพักพร้อมส่วนลดได้ที่ https://www.trip.com/t/cRT3wcgglR2