ถ้ามองว่าโรมคือความโอ่อ่า… มิลานก็คงเป็นความชิคมีสไตล์ที่น่าหลงใหล เมืองแห่งแฟชั่น ดีไซน์ และแรงบันดาลใจที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมถนน ทริปนี้เราเลือกพักที่ Meliá Milano โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ในย่าน Fiera Milano City ซึ่งแม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองแบบเดินถึง Duomo ได้ แต่บอกเลยว่าเดินทางสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้กับ สถานีรถไฟใต้ดิน Lotto แค่ไม่กี่ก้าว ใช้เวลานั่งรถไฟใต้ดินประมาณ 15–20 นาทีก็ถึงโซนหลักอย่าง Milano Centrale แล้ว

Meliá คือเครือโรงแรมสัญชาติสเปน ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Mallorca มากว่า 70 ปีแล้ว ปัจจุบันมีโรงแรมกว่า 390 แห่งใน 40 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ซึ่งเราคุ้นเคยชื่อนี้เป็นอย่างดีจากโรงแรม Meliá ในเมืองไทย ทั้งเชียงใหม่ สมุย ภูเก็ต กรุงเทพฯ และล่าสุดเพิ่งเปิดที่พัทยา จุดเด่นของเขาอยู่ที่มาตรฐานคุณภาพ เสน่ห์ของความอบอุ่น และการให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตและการพักผ่อนนั้น ดังนั้นการมาเที่ยวมิลานครั้งนี้ จึงไว้ใจที่จะเข้าพักที่นี่

บริเวณล็อบบี้ ตกแต่งด้วยรูปถ่ายเก่าๆ ให้บรรยากาศคลาสสิกท่ามกลางสไตล์โมเดิร์น

เรามาถึง Meliá Milano ในช่วงเย็น เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้ามาเจอล็อบบี้ ก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราแบบกำลังดี บรรยากาศโอ่อ่าด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลกลางโถงบันได ด้านซ้ายมือคือเคาน์เตอร์เช็คอิน พนักงานต้อนรับอย่างสุภาพและคล่องแคล่ว ใช้เวลาเช็คอินไม่นาน พนักงานก็พาเราขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพัก The Level Premium วิวถนน ซึ่งมีเตียงคิงไซส์ใหญ่น่านอนสุด ๆ เห็นแล้วอยากจะทิ้งตัวเดี๋ยวนั้นเลย

เคาน์เตอร์เช็คอินที่ล็อบบี้
การ์ดเวลคัมเล็กๆ และขนมเค้ก วางไว้ในห้องพัก
Amenities พรีเมียมกลิ่นหอมๆ ในห้องน้ำ

ในห้องตกแต่งด้วยโทนสีเขียวสบายตา และใช้วัสดุไม้เป็นหลัก ทั้งพื้น ผนัง ตู้เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ บนโต๊ะทำงานมีการ์ดเวลคัมเล็กๆ พร้อมขนมเค้กและเครื่องดื่ม สิ่งอำนวยความสะดวกมีทีวีจอแบน ตู้เย็นขนาดเล็ก มุมโซฟาเบด และที่เราชอบมากคือ amenities ในห้องน้ำที่หอมละมุน ทุกอย่างดูใส่ใจ รายละเอียดเล็ก ๆ ไม่หลุดเลย

ยกระดับประสบการณ์เข้าพัก ด้วยเอกสิทธิ์ระดับพรีเมียมของ The Level

ห้องพัก The Level Premium มาพร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะบุคคล

The Level คือโลกของเอกสิทธิ์ที่เหนือกว่า สำหรับแขกผู้เข้าพักในห้องพัก privilege ประเภท The Level Room, The Level Premium ไปจนถึง The Level Suite ต่างๆ ก็จะได้ประสบการณ์เข้าพักที่พรีเมียมมากขึ้น มีความเป็นส่วนตัวและได้สิ่งอำนวยความสะดวกที่พิเศษมากขึ้น นอกจากการเช็คอินแบบส่วนตัว บริการ late check out บริการรีดผ้า (1 ชิ้นต่อการเข้าพัก 1 ครั้ง) บริการจองร้านอาหาร ยังได้เข้าใช้บริการพื้นที่เฉพาะของโรงแรมอย่าง The Level Lounge ซึ่งมีความสงบเงียบ เหมาะกับการเข้ามานั่งทำงาน ใช้พื้นที่ประชุมงานแบบส่วนตัว มาเพลิดเพลินกับน้ำชายามบ่าย

ภายใน The Level Lounge

ที่เซอร์ไพรซ์ก็คือ เขามีฟรีเครื่องดื่ม aperitivo ช่วงเย็นให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น prosecco ไวน์ หรือ mocktail ต่าง ๆ พร้อมอาหารว่างและขนมเค้กน่ารักละลานตา ถือว่าเป็นจังหวะพักก่อนออกไปดินเนอร์ที่ดีมากเลย

อาหารเช้าจะพิเศษหน่อย แขกของ The Level สามารถเลือกไปทานอาหารที่ห้องอาหารเช้าหลักที่ชั้นล่าง ซึ่งมีบุฟเฟต์มาตรฐานที่หลากหลายของโรงแรม หรือจะมาทานที่ The Level Lounge ก็จะได้ความสงบที่หรูขึ้นอีกระดับ แถมมีเมนู a la carte แบบทำสดใหม่จากเชฟ ให้สั่งได้เพิ่มเติม นอกเหนือไปจากเคาน์เตอร์บริการตนเอง เช่น เครป วาฟเฟิล และสารพัดเมนูไข่ แนะนำให้ลอง Eggs Benedict กับแซลมอนรมควัน คือดีมากก

ที่นี่มีฟิตเนสเปิด 24 ชั่วโมง รวมถึงสปาและห้องอบไอน้ำให้บริการ ใครที่อยากพักผ่อนแบบครบวงจรไม่ต้องออกไปไหน ก็สามารถใช้เวลาภายในโรงแรมได้อย่างเต็มที่ มีทั้งห้องประชุมและ co-working space สำหรับนักธุรกิจ และยังรองรับการจัดอีเวนต์แบบจริงจังได้ด้วย

Meliá Milano อาจไม่ใช่โรงแรมที่อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวหลักแบบเดินถึง Duomo ได้ แต่ในแง่ความสะดวก ความครบครัน และความหรูหราแบบ ‘สเปนผสมอิตาเลียน’ ที่ยังคงความอบอุ่นและบริการที่ดีเยี่ยม เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวสายชิล ครอบครัว คู่รัก และนักธุรกิจที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว มีความเป็นระบบแบบเครือ Meliá แต่ก็ไม่ทิ้งเสน่ห์แบบมิลานที่แอบอยู่ในดีเทลทุกมุม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.melia.com/en/hotels/italy/milan/melia-milano และจองห้องพัก Meliá Milano พร้อมส่วนลดได้ที่ https://www.trip.com/t/99ttF8ZXlR2

Anya Wan
นักเขียน/นักดนตรี ที่นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป

Leave a Reply