img_1811

กาแฟ หนังสือ ของวินเทจ และเสียงดนตรี เหล่านี้คือสิ่งที่อยู่ร่วมกันแบบลงตัวและกลมกล่อมเหมือนรสชาติกาแฟที่เจ้าของร้าน Walden Home Café บรรจงสร้างสรรค์ ร้านกาแฟย่านคลองสานที่จะยังเรียกว่าใหม่ได้อยู่รึเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะเปิดมาได้ 3 เดือนกว่าๆ แล้ว

ออกตัวก่อนว่าเราเองเป็นคนที่ผูกพันกับย่านคลองสานมานาน เราชอบแม่น้ำเจ้าพระยา ชอบร้านอาหารบ้านๆ และร้านบัวลอยในตลาด แต่ทุกวันนี้คลองสานเปลี่ยนสภาพไปมากพอสมควรจากที่เราเคยรู้จัก มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าจนราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นกันแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งยังมีห้างหรูเปิดใหม่ ทุกอย่างดูโอ่อ่าสวยงามและมันกำลังจะพัฒนาไปในทิศทางที่เจริญมากขึ้น แน่นอนว่าการพัฒนาเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ ‘ความบ้านๆ’ ในแบบของคลองสานก็น้อยลงด้วย ทำเราใจหายเบาๆ

img_1789

ระหว่างเดินอยู่ริมฟุตบาต ฝ่าฝุ่นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้ามาเรื่อยๆ เราเปิดประตูเข้ามาที่ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้ เพื่อนัดเจอกับเพื่อนเก่าที่เคยทำงานนิตยสารด้วยกัน หลังจากเขาวนเวียนอยู่ในวงการออกแบบงานนิตยสารมาสักพักใหญ่ ดิฐ แจ้งศิริเจริญ อดีตกราฟิกดีไซเนอร์ที่เคยฝากผลงานไว้ในนิตยสารดังๆ หลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็น Wallpaper, GQ รวมไปถึงบทบาทของอาร์ตไดเร็กเตอร์ที่ BK magazine, 2mag, Custard และ Lips

ตอนนี้เขาผันมาทำธุรกิจร้านกาแฟของตัวเอง อย่างที่เราเห็นเขายืนชงกาแฟอยู่หลังเคาน์เตอร์ มีอุปกรณ์มากมายเรียงรายอยู่รอบตัว มีลูกค้า เพื่อนฝูง นั่งคุยกันอย่างสบายใจ เป็นบรรยากาศร้านกาแฟที่เรารู้สึกเหมือนมาเยี่ยมเพื่อนที่บ้าน

img_1774

“อย่างที่รู้กันว่าวงการนิตยสารเริ่มซบเซาลงเรื่อยๆ หนังสือที่ทำอยู่ปิดตัวลง ก็มองหาว่าจะไปทำอะไรต่อ ตอนนั้นเป็นจังหวะที่ขายคอนโดแล้วได้เงินมาก้อนนึง บวกกับได้แรงบันดาลใจจากพี่ๆ ในวงการ ก็คิดจะทำธุรกิจบ้าง ดูไว้หลายอย่าง ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยจั๊บญวณ food truck น้ำเต้าหู้ ไม่ได้มองเรื่องกาแฟเลย มีการไปดูโลเกชั่นแล้วก็เตรียมการอยู่เกือบ 2 ปี จนมาลงตัวที่นี่” ดิฐทำชาไทยของโปรดเราให้แก้วนึง ในระหว่างที่เริ่มชวนเขาคุย

img_e1793

“เราผูกพันกับเส้นเจริญนครพอสมควร เพราะเป็นทางผ่านกลับไปบ้านที่ราชพฤกษ์ บางทีก็มาเดิน The Jam Factory หรือมาเดินริมน้ำ หลังจากเซอร์เวย์แป๊บเดียวก็คว้าตึกแถวห้องนี้ไว้เลย” สิ่งที่เรามีคล้ายๆ กันไม่ใช่แค่เรื่องความคุ้นเคยกับย่านคลองสาน แต่ยังมีเรื่องของดนตรี ของวินเทจ และหนังสือ จึงไม่แปลกเลยที่เราเข้ามาร้านนี้แล้วรู้สึกยิ่งกว่าผ่อนคลาย

img_e1792

“จริงๆ เป็นคนที่กินกาแฟทั่วไป แต่สิ่งที่อินมากก็คือ Café Culture เสาร์อาทิตย์เราไม่เคยอยู่บ้านเลย ชอบไปนั่งทำงานร้านกาแฟ ซึ่งเราสามารถพูดได้ว่าในกรุงเทพฯมันไม่มีร้านที่ใช่เราจริงๆ (ใช่เรานะ ไม่ใช่สำหรับคนอื่น) บางร้านเปิดเพลงไม่ถูกใจ บางร้านหรูมาก เข้าไปแล้วเกร็ง ทำตัวไม่ถูก บางร้านหนังสือก็น้อยเหลือเกิน หรือบางร้านก็เงียบ ไม่เปิดเพลง ห้ามถ่ายรูป ห้ามเสียบปลั๊ก พอเราได้ทำร้านกาแฟของตัวเอง ก็เลยทำในแบบที่ตัวเองชอบ บรรยากาศ Cozy รู้สึกสบายๆ อบอุ่น มีเครื่องดื่ม มีอาหาร” และที่สำคัญ มีเพลงที่ดิฐตั้งใจสร้างสรรค์เพลย์ลิสต์ด้วยตัวเอง

img_1786

ก็อย่างที่บอก เขาเป็นนักออกแบบกราฟิกที่บ้าคลั่งดนตรีคนหนึ่งเลย เข้ามาร้านนี้ก็เลยจะได้ฟังทั้งคลาสสิก ป๊อบ ร็อก แจ๊ซ หรือบางทีก็เพลงเก่าทั้งไทยและฝรั่ง เพลงที่กำลังเปิดอยู่ระหว่างที่เรานั่งคุยอยู่นี้คือ Bohemian Rhapsody ของวง Queen

img_1784

“ลูกค้าบางคนถึงกับขอเพลย์ลิสต์เลย เราบ้ากับการจัดเพลย์ลิสต์มาก มันเป็นความสุขอย่างนึง เพราะเราซีเรียสกับเรื่องบรรยากาศ เรื่องมู้ด พอกด play ปุ๊บแล้วก็จะชอบดู reaction ของคน บางคนเขาเศร้าๆ อยู่ เราจัดเพลงเศร้าๆ ต่อกันไปเลย 5 เพลง” เขาหัวเราะ

img_1781

นอกจากเรื่องเพลงแล้ว ของกระจุกกระจิกที่นำมาตกแต่งในร้านก็ล้วนเป็นของวินเทจที่เป็นของสะสมของเขาเอง ที่ชั้นสองของร้านมีชั้นหนังสือ มีเปียโนวางอยู่ แล้วก็กระถางต้นไม้ต่างๆ สอดคล้องกับชื่อร้าน Walden ซึ่งเป็นชื่อของหนังสือปรัชญา ว่าด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ถ้าอยากอ่านก็ลองไปค้นชั้นหนังสือของเขาดูได้ ไม่แน่อาจจะเจอเล่มอื่นๆ ที่ถูกใจอีกเต็มไปหมด

img_1773

เราเองก็ใช้เวลาอยู่นานกับหนังสือหลายเล่มของร้านนี้จนลืมเวล่ำเวลา ดิฐเอากาแฟมาให้อีกแก้วแล้วบอกว่าเป็นเมนูใหม่ที่เราจะได้ชิมเป็นคนแรกของร้าน Cascara Latte ทำจากคอฟฟี่เชอรี่ เจือความหวานของโฮมเมดไซรัป รสชาติเป็นกาแฟที่มีความคล้ายๆ น้ำลำไย มะตูมอยู่หน่อยๆ ลองแล้วก็แปลกใหม่ดี แถมตอนนี้เขาเล่าว่ากลายเป็นเป็นเมนูที่ลูกค้าหลายคนชอบ นอกเหนือไปจากเมนูเด่นอย่างช็อกโกแลตและชาเขียว

img_e1765
Cascara Latte

ไม่ใช่แค่กลิ่นกาแฟหรอกที่ช่วยให้เราผ่อนคลาย แต่เป็นความตั้งใจและความหลงใหลของคนชงด้วยที่ผสมอยู่ในนั้น บรรยากาศในพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ถึงได้ดีจนเราอยากจะแวะเวียนกลับไปบ่อยๆ

Walden Home Café

Open: 9.00a.m. – 6.00p.m.

Tel. 062-362-9915

https://www.facebook.com/waldenhomecafe/

 

อัญวรรณ ทองบุญรอด นักเขียน/นักดนตรี เจ้าของผลงานหนังสือ 'เวียนนา ลาทีโด' นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป