Origami ที่หมายถึงศิลปะการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น ได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อร้านอาหารในซอยสุขุมวิท 24 มาพร้อมเมนูที่ผสมผสานกับรสชาติความอร่อยของอาหารท้องถิ่นต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างน่าสนุก ด้วยนิยามแบบ borderless cuisine หรือการทำอาหารแบบไร้พรมแดน ผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายมาไว้ในจานเดียวกัน โดยไม่จำกัดว่าเป็นอาหารสัญชาติไหนหรือของประเทศไหน
Borderless cuisine เป็นเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในไทยด้วย มันเหมือนเป็นขั้นกว่าของฟิวชั่นไปอีก เพราะไม่จำกัดโครงสร้างทางอาหาร และไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ แต่พาเราเชื่อมโยงวัฒนธรรมและประสบการณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปรุง การกินอยู่ การเดินทาง แต่ละพื้นถิ่นต่างก็ได้รับอิทธิพลกันไปมาตั้งแต่อดีตอยู่แล้ว ดังนั้นการเปิดกว้างให้เชฟไม่ต้องคำนึงถึงเส้นแบ่งตรงนี้ จึงทำให้อาหารกลายเป็นงานศิลปะที่เป็นการสร้างสรรค์เฉพาะตัวของคนทำ ซึ่งต้องมีความรู้ว่าวัตถุดิบอะไรหรือรสชาติไหนที่มาอยู่ด้วยกันแล้วจะส่งเสริมกัน รวมถึงเทคนิคการปรุงที่เมื่อพลิกแพลงแล้วจะไม่ทำลายอรรถรสเดิม แต่สร้างรสชาติใหม่ๆ ที่น่าสนใจ แถมเป็นรสชาติที่ไม่สามารถไปหาที่อื่นแบบเดียวกันได้อีก
Origami Restaurant ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม Staybridge Suites Bangkok ตกแต่งในโทนสีเขียวครีม เรียบง่ายสไตล์มินิมัล ประดับตกแต่งด้วยงานพับกระดาษตามุมต่างๆ รวมไปถึงโคมไฟกระดาษแบบญี่ปุ่น ที่นั่งจะมีทั้งโซนที่รีแล็กซ์ สบายเหมือนนั่งทานข้าวที่บ้านกับครอบครัว แล้วก็โซนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนซึ่งตกแต่งให้ดูคล้ายประตูกระดาษโชจิของญี่ปุ่น สามารถปิดเป็นไพรเวตเพื่อจัดปาร์ตี้ หรือสังสรรค์เป็นกลุ่มใหญ่ก็ได้ ขณะเดียวกันเฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายก็ให้ความรู้สึก cozy และแต่ละโต๊ะก็จะมีกระดาษรวมทั้งขั้นตอนการพับ จัดวางไว้ให้บนโต๊ะ ถ้าระหว่างรออาหารอยากจะทำ DIY เล่นๆ ก็น่ารักเลยทีเดียว
เมนู borderless สุดครีเอทีฟ Origami restaurant
เมนูของที่นี่ เชฟตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นให้เรารู้สึกเซอร์ไพรซ์กับการจับนั่นผสมนี่ เริ่มจาก Thai Shrimp Ceviche หรือเซวิเช่กุ้งแช่ เป็นการเอากุ้งแช่น้ำปลามาผสมผสานกับเทคนิคอาหารของเปรู ได้รสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านขึ้น ต่อด้วย Ocean Harmony Roll ซาชิมิ 4 แบบ (แซลมอน ทูน่า ฮามาจิ ทาโกะ) ห่อแต่ละส่วนด้วยสาหร่าย จากนั้นห่อรวมกันด้วยหัวไชเท้าดอง เสิร์ฟคู่กับครีมซอสโชยุและไข่ปลาแซลมอน
มาที่อาหารจานหลัก ซิกเนเจอร์ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอก็คือ Sichuan Pork Spare Ribs ซี่โครงย่างซอสเสฉวนอเมริกันริบส์ เสิร์ฟคู่กับมันย่างชีสและผัก เขาผสมผสานระหว่างซอสและเทคนิคการทำของอเมริกันกับจีน เสฉวน แต่พรีเซนต์ออกมาชวนนึกถึงอาหารอเมริกันจานโต ดูน่ารับประทาน และใช้วิธีรับประทานแบบอเมริกันด้วย บอกเลยว่าเนื้อหมูชุ่มฉ่ำเคี้ยวง่าย เป็นจานโปรดของเราที่สุดด้วย
สายทานเนื้อ ต้องไม่พลาด Linguine Truffle Beef Tataki เป็นการผสมระหว่างอิตาเลียนและญี่ปุ่นที่ลงตัว เขาใช้เส้นลิงกวินีแบบแบน ผัดกับเห็ดชอมปิญองและ truffle paste ในน้ำมันมะกอก ท็อปปิ้งหน้าด้วย Beef tataki สไตล์ญี่ปุ่นที่นำไป sous vide แล้วนำไปย่าง ทำให้ได้ความกรอบเฉพาะด้านนอก แต่ด้านในยังให้ความชุ่มฉ่ำของเนื้ออยู่ โรยหน้าด้วยกระเทียมสไลด์อบ รสชาติละมุนลิ้น
ก่อนจะปิดท้ายจานหลักด้วยการผสมผสานอาหารไทยโดยใช้เทคนิคแบบอเมริกันอย่าง Watermelon Dried Fish with Smoked Salmon and Cream Cheese ประกอบไปด้วยปลาข้าวสารแห้งครีมชีสและปลาแซลมอนรมควัน ประยุกต์ด้วยการใช้เทคนิค molecular gastronomy ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ สร้างรูปแบบที่แปลกใหม่สวยงาม ให้ภาพลักษณ์ของอาหารแห่งอนาคต
และก็มาถึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดอย่างการทานของหวาน เราขอแนะนำ Chocolate Concord with Matcha Ice-cream ช็อคโกแลตคองคอร์ด เป็นขนมฝรั่งเศสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ผสมผสานสององค์ประกอบง่ายๆ คือ เมอแรงก์และมูสช็อกโกแลต เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมชาเขียวของญี่ปุ่นทำให้เกิดมิติใหม่ในการรับประทาน ทั้งหอมหวานเย็นสดชื่น และถ้าใครชอบชาไทย Saint-Honoré Thai Tea ก็น่าสนใจมาก ขนมแซงโตโนเร่ของฝรั่งเศสมาบวกกับชาไทยรสเด็ด ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่ชวนลอง
เมนูของที่นี่ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่การจับเอาความเก่า ความใหม่ และวัฒนธรรมที่หลากหลายมาอยู่ในจานเดียวกัน มันเหมือนได้พาผู้ที่ลิ้มลองรสชาตินั้นออกเดินทางไปทั่วโลก เรารู้สึกว่าจานอาหารของร้าน Origami ก็เป็นพื้นที่แห่งจินตนาการเช่นเดียวกับการพับกระดาษออริกามิ เติมเต็มมื้ออาหารให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์และความทรงจำ
Origami Restaurant
ชั้น L โรงแรม Staybridge Suites Bangkok ซอยสุขุมวิท 24
โทร 094-618-0777
เปิดทุกวัน 12.00-22.00น.
ดูเพิ่มเติม https://origamirestaurant.co/
