การแพ็กเสื้อผ้าลงกระเป๋าไปเที่ยวสมุยครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานเลย เราแค่เน้นชุดโทนสีขาว เพื่อให้ตัดกับสีของท้องฟ้าใสๆ สีเบจของผืนทราย และสีเทอร์ควอยซ์ของน้ำทะเล หยิบชุดว่ายน้ำไปสักสองตัว ก็พร้อมไปพักผ่อนที่ เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย (Centara Reserve Samui)

ที่นี่คือรีสอร์ท ณ มุมสงบของหาดเฉวงที่อยู่ห่างจากสนามบินสมุยเพียง 15 นาที เพิ่งได้รับการรีโนเวทครั้งใหญ่แบบเปลี่ยนโฉมทุกอย่าง มาสู่สไตล์ที่คลีน โมเดิร์น แต่ก็ผสมกลิ่นอายแบบโคโลเนียล ออกแบบโดย อาฟโรโค่ (AvroKO) บริษัทดีไซน์มือรางวัลที่ออกแบบโรงแรมและรีสอร์ทลักชัวรี่หลายแห่งทั่วโลก ท่ามกลางสวนสวยแบบทรอปิคัล มีสนามหญ้ากว้างและต้นไม้ใหญ่มากมาย ที่สำคัญคือเป็นการออกแบบมาเพื่อการสร้างความทรงจำให้กับแขกแต่ละคนที่มีความต้องการแตกต่างกัน

Centara Reserve Samui เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ทุกอย่างจึงแลดูใหม่เอี่ยม เริ่มจากล็อบบี้ที่ดูโอ่อ่าและโปร่งโล่ง โดยจะมีบ่อน้ำเล็กๆ ที่หน้าบันไดทางขึ้น เพื่อให้เราได้หยิบดอกดาวเรืองมาอธิษฐานและนำไปลอยน้ำ เป็นกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ในการเวลคัมแบบไทยเพื่อสื่อความหมายถึงความสุข ความโชคดี ก่อนจะเสิร์ฟเวลคัมดริงค์เป็น Silver Velvet Purple เครื่องดื่มสีม่วงกลิ่นลาเวนเดอร์ กับขนมหวานที่เป็นช็อกโกแลตฝรั่งเศส แล้วจึงทำการเช็คอิน

โถงล็อบบี้ Centara Reserve Samui ผสมกลิ่นอายโคโลเนียล และเน้นความโปร่งโล่ง

Centara Reserve ถือว่าเป็นเลเวลที่ลักชัวรี่ที่สุดของรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา นำเสนอห้องพักสุดหรูกว่า 184 ห้อง ทั้งพูลสวีท และพูลวิลล่าติดชายหาด มีห้องอาหารถึง 6 แห่ง มีสปาพร้อมสวนสมุนไพรออร์แกนิก แล้วก็กิจกรรมเพื่อสุขภาพมากมาย อย่างฟิตเนส สระว่ายน้ำ 3 สระ คือสระที่มีพูลบาร์ มาพร้อมสวนน้ำเล็กๆ สำหรับเด็ก และสระผู้ใหญ่ที่เงียบสงบ มาพร้อมกระจกใสขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายรูปแบบเห็นไปถึงใต้น้ำ แล้วยังมีสระบริเวณห้องพักที่เป็น pool access

บีชบาร์ Salt Society

ทุกองค์ประกอบในห้องพักมาในคอนเซ็ปต์รักษ์โลก

เราได้มาพักที่ห้อง Pool Suite ที่เปิดระเบียงห้องมา ก็เชื่อมต่อสระว่ายน้ำได้เลย ด้านในห้องมีเตียงซูเปอร์คิงไซส์ โซฟานั่งพักผ่อน ตู้เสื้อผ้าที่มีกระเป๋าชายหาดกับชุดคลุมอาบน้ำให้เลือกสองเนื้อผ้า แบบหนากับแบบบาง ขณะที่ amenities ต่างๆ เน้นคอนเซ็ปต์รักษ์โลกและความยั่งยืน (Sustainability) คือเลี่ยงการใช้พลาสติก ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟัน คอตตอนบัด หวี ก็ทำจากไม้ ในขณะที่สบู่ แชมพู จะแบ่งออกเป็นสองชุด คือสำหรับคุณผู้หญิง และคุณผู้ชาย ด้วยกลิ่นที่แตกต่างกัน และแม้แต่น้ำดื่มก็ยังมาจากระบบผลิตน้ำดื่มบริสุทธิ์และน้ำดื่มอัดแก๊สบรรจุขวดในบริเวณรีสอร์ท

ห้อง Pool Suite เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ
ช็อกโกแลตน่ารักๆ ที่ทางรีสอร์ทจัดวางไว้ต้อนรับเราในห้องพัก

คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ที่เตียงเขาจะมี Sleep Therapy Clock นาฬิกาที่ช่วยให้การนอนหลับของเราเป็นการพักผ่อนที่ดีขึ้น ส่วนมินิบาร์ นอกจากเครื่องดื่มและของขบเคี้ยวทั่วไปแล้ว ยังมีเครื่องดื่มอย่างจิน วิสกี้ ให้เลือกดื่มเพิ่มอรรถรสของการพักผ่อน และที่เก๋ก็คือ โทรศัพท์ข้างเตียง ที่เราสามารถโทรไปรีเซ็ปชั่นหรือปุ่มฉุกเฉิน มันก็มาพร้อมปุ่มที่เขียนว่า ‘Surprise of the Day’ ให้แขกกดได้เพียงวันละ 1 ครั้ง ทางรีสอร์ทก็จะมีขนมของขวัญมาเซอร์ไพรส์เล็กๆ น้อยๆ ให้ถึงห้อง

6 ร้านอาหารกับสไตล์ที่แตกต่าง ตั้งแต่บีชบาร์สนุกๆ ไปจนถึงมื้อสุดหรู

ประสบการณ์เรื่องอาหาร คือ ไฮไลท์ที่ทางเซ็นทาราเขาภูมิใจนำเสนอที่สุด เพราะทั้ง 6 ร้านภายในรีสอร์ทนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งนั้น ร้านที่เราชอบที่สุดคือ Salt Society (เปิดทุกวัน เวลา 12.00 น. – 22.30 น.) บีชบาร์ที่มีการตกแต่งด้วยแท่งไม้ไผ่บนเพดาน เรียงๆ กันเป็นเหมือนอาร์ตอินสตอลเลชั่นที่น่ามอง เราชอบ vibe ที่นี่ที่มันคอนเนคกับทะเลได้ดีมากๆ ทุกอย่างจะคุมโทนอยู่ในสีฟ้า น้ำเงิน เบจ ขาว แม้แต่ช้อนส้อมยังทำจากไททาเนียมเคลือบเงาสีน้ำเงิน มันทำให้เรานึกถึงงานศิลปะของเจฟฟ์ คูนส์ เหมือนกัน

Salt Society

ความสนุกคือมีค็อกเทลมากมายให้เราลองชิม บางเมนูก็จะมีมิกโซโลจิสต์มาโชว์การผสมเครื่องดื่มให้ดูถึงโต๊ะ และบางเมนูก็จะเสิร์ฟมาในแก้วรูปปลาปักเป้า รูปหอยสุดน่ารัก ส่วนอาหาร ต้องบอกว่าขนมปังอร่อยจนเราต้องขอเพิ่มแล้วเพิ่มอีก แถมยังมาพร้อมกิมมิกที่เชื่อมโยงกับชื่อร้าน ด้วยการมีเกลือให้เลือกหลายชนิด ตามความชอบและรสชาติที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละอย่าง

ต่อมาคือร้าน Act5 (เปิดบริการวันพุธถึงวันอาทิตย์ 18.00 น. ถึง 22.30 น.) เหมาะกับดินเนอร์ที่ดูเป็นทางการขึ้นมาหน่อย เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส แพริ่งกับไวน์ เมนูขึ้นชื่อของเขาคือเนื้อวากิวเกรดพรีเมียม หรือถ้าคนที่ชอบซีฟู้ด เขาก็มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ล็อบสเตอร์ ต่างๆ ทุกอย่างสดอร่อย ส่วนอาหารเช้าก็จะเสิร์ฟที่ร้าน The Terrace (เปิดบริการทุกวัน เวลา 6.00 น. ถึง 18.00 น.) ซึ่งมีบรรยากาศสบายๆ ดื่มกาแฟหรือน้ำผลไม้ไปพร้อมกับมองวิวสวนกว้างๆ มันผ่อนคลายมากๆ โดยเราสามารถเลือกสั่งเมนูอาหารเช้าแบบ a la carte หรือไปเลือกตักที่มุมบุฟเฟต์ด้วยตัวเองก็ได้ อย่าลืมไปลองครัวซองต์จิ๋ว ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ทั้งน่ารักน่ากินเลยทีเดียว

ร้านอาหาร Act 5

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยฟิวชั่นสไตล์ทาปาสชื่อว่า ‘สง่า’ ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นอีกร้านดังของสมุย (แต่เราไม่มีโอกาสได้ลองชิม เพราะเข้าพักไม่ตรงวันเปิดบริการ ซึ่งมีเฉพาะวันศุกร์ถึงวันอังคาร 18.00 น. – 22.30 น.) รวมทั้งพูลบาร์ อีกมุมยอดนิยมของรีสอร์ท ให้เรามานั่งผ่อนคลายริมสระพร้อมจิบเครื่องดื่ม/อาหารว่าง หรือจะเป็น The Gin Run ล็อบบี้บาร์สำหรับคนรักเครื่องดื่มจินโดยเฉพาะ เป็นจินที่ปรุงรสเองกว่า 32 แบบ

ไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้าที่ห้องอาหาร The Terrace
ไมโครครัวซองต์ที่ขึ้นชื่อ

สปาออร์แกนิก 100% พร้อมสวนสมุนไพรให้เราเดินเลือกเก็บวัตถุดิบสปาได้เอง

ในวันที่สองของการเข้าพัก เราตั้งใจแล้วว่านอกจากเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพวกโยคะ และการออกกำลังในน้ำ ที่ทางรีสอร์ทจัดตารางไว้แล้ว เราจะต้องไม่พลาดมาทดลองประสบการณ์สปาของที่นี่ด้วย เพราะที่รีเซิร์ฟ สปา เซ็นวารี นี้ มีความพิเศษตรงที่แต่ละโปรแกรมทรีตเมนต์ได้รับการออกแบบมาพิเศษเฉพาะตัว ให้เป็นการดูแลที่เหนือระดับ ตรงจุด และใช้การบำบัดจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยเมนูสปาแบบออร์แกนิก 100% เพื่อสุขภาพที่ดีและการผ่อนคลายที่ล้ำลึก โดยมีห้องทรีตเมนต์ทั้งหมด 7 ห้องที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและสงบเงียบ

สวนสมุนไพรของเซ็นทารา ให้แขกเดินเลือกวัตถุดิบมาทำสปาได้เอง

ใกล้ๆ สปา จะมีสวนสมุนไพร โดยทางรีสอร์ทก็เล่าว่าบางโปรแกรมทรีตเมนต์ ลูกค้าสามารถมาเดินเลือกเก็บสมุนไพรในสวนได้เอง เพื่อนำไปใช้ผสมกับน้ำมันและโคลนสำหรับทำสปา ส่วนทรีตเมนต์ที่เราได้ลองไปคือการนวดหน้า Crystal Aging Facial การนวดยกกระชับใบหน้าด้วยคริสตัลบอลที่สายบิวตี้พลาดไม่ได้ เพราะเป็นการปลอบประโลมผิวแบบล้ำลึก กระตุ้นให้เลือดไหลเวียน รูขุมขนหดตัว กำจัดความเมื่อยล้าและกล้ามเนื้อใบหน้าบางส่วนที่เกร็งตึงโดยที่เราไม่รู้ตัว เป็นศาสตร์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ หลังนวดเสร็จรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายไปถึงส่วนอื่นๆ ของร่างกายเลยด้วยซ้ำ

บ่ายแก่ๆ แดดร่มลมตก เราออกไปเดินเล่นชายหาด ซึ่งทางรีสอร์ทก็จัดเตรียมพวกอุปกรณ์อย่างเรือคายัค เรือใบ เอาไว้สำหรับคนที่ชอบกิจกรรมทางทะเลด้วย แต่ช่วงวันที่เราเข้าพัก คลื่นทะเลค่อนข้างแรงก็เลยไม่ได้ลงน้ำ เพียงแต่ไปเดินเล่น นอนอาบแดดนิดหน่อย ก็รู้สึกสบายใจ

ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับการมาพักผ่อนที่นี่ ตั้งแต่ส่วนกลาง ไปจนถึงร้านอาหาร ทั้งบรรยากาศและรสชาติ รวมถึงสระว่ายน้ำและสปา ทุกอย่างเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และอิงธรรมชาติเป็นหลัก ทำให้ไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหน ทำอะไรอยู่ในรีสอร์ท เราจึงรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้ๆ ธรรมชาติเสมอ และเห็นคุณค่าของมันมากขึ้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.centarahotelsresorts.com/reserve/crs/

Leave a Reply