จากยอดเขามงต์บลองค์ (Mont Blanc) ยอดเขาสูงสุดในยุโรปที่เมืองชาโมนิกซ์ (Chamonix) ประเทศฝรั่งเศส มาสู่ยอดเขาสูงสุดแดนสยามที่ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ในงานวิ่งเทรลสุดโหดที่นักวิ่งทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้เข้าสู่สนามสักครั้งในชีวิต UTMB (Ultra-Trail du Mont-Blanc)

Ultra-Trail du Mont-Blanc คือรายการแข่งวิ่งเทรลที่มีขึ้นครั้งแรกในปี 2003 มีจุดสตาร์ทอยู่ที่เมืองชาโมนิกซ์ ซึ่งมีพรมแดนเชื่อมทั้งสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี จึงเป็นเส้นทางวิ่งที่สวยงามและมีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สำหรับวงการรันเนอร์แล้ว เรซนี้ก็เหมือนโอลิมปิกของนักวิ่งเทรลเลยทีเดียว

ปัจจุบัน UTMB มีการแข่งขันอยู่ 6 ที่ในโลก แต่ละสนามจะมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติและความยากง่ายต่างกันไป โดยมี 2 ที่ในจีน ต่อด้วยอาร์เจนตินา สเปน โอมาน และล่าสุดก็มาจัดที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30-31 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน 2020 โดยเลือกโลเกชั่นเป็นดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย ซึ่งลาวีอองโร้ดก็ได้เดินทางไปร่วมชมการแข่งขันครั้งนี้ด้วย หลังจากที่เราเคยไปสัมผัสบรรยากาศ ‘ยิ่งสูง ยิ่งหนาว’ บนยอดเขามงต์บลองค์มาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน

มงต์บลองค์ แปลว่าภูเขาสีขาว เพรามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี นักผจญภัยทั่วโลกทั้งมาเล่นสกี สโนว์บอร์ด ไต่เขา และเทรกกิ้งที่นี่ แต่สำหรับเราที่ถึงแม้จะไปแบบนักท่องเที่ยว นั่งรถไฟไปต่อรถกระเช้าสบายๆ ก็ยังรู้สึกว่า แค่นั้นก็เกิดอาการหายใจลำบาก เวียนหัว เพราะออกซิเจนน้อย แถมยังขาสั่นเวลาเจอลมแรงมากๆ พัดมาปะทะตัว รู้สึกเหมือนตัวจะปลิวตกลงไปข้างล่างได้ง่ายๆ ท่ามกลางความเวิ้งว้างกว้างใหญ่ของภูเขาหิมะโอบล้อม นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกเลยว่ามนุษย์เรานี่ตัวเล็กเป็นฝุ่นผงเลยเมื่อเทียบกับธรรมชาติ

ดังนั้นนักวิ่งที่เข้าร่วมแข่งขันการวิ่งเทรลในรายการ UTMB ได้ จะต้องมีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ มีเป้าหมายที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อทะลุขีดจำกัดของตัวเอง ผ่านการวิ่งเป็นระยะทางเป็นร้อยกิโลเมตร แล้วยังต้องจัดการเรื่องเวลาให้ดีอีกด้วย เพราะต้องวิ่งไปในแต่ละจุดให้ไม่เกินระยะเวลาที่กำหนด มันคือความท้าทายและความภูมิใจเมื่อทำสำเร็จ ขณะเดียวกันก็ได้ซึมซับบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติรอบๆ ตัว ด้วยระดับความเร็วของสองเท้า

บรรยากาศในตอนเช้าก่อนปล่อยตัวนักวิ่งชุดแรก

เรามาถึงดอยอินทนนท์วันแรกก็เจอกับอุณหภูมิ 10 กว่าองศาเซลเซียส แถมยังมีฝนพรำอยู่ตลอด จนพื้นที่เป็นดินโคลนเฉอะแฉะเลอะเทอะไปหมดทั้งบริเวณเซ็นเตอร์และเส้นทางวิ่ง บรรยากาศคึกคักมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ กำลังทำงานและเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน ซึ่งมีทั้งหมด 5 ระยะทาง ตั้งแต่ 170 กิโลเมตร 120 กิโลเมตร 80 กิโลเมตร 25 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร โดยมีทั้งคนไทยและต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันรวมๆ กว่า 1,500 คน

ซุ้มปล่อยตัวนักวิ่งที่ทำจากต้นสะหลีหรือต้นโพธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันเป็นมงคลของอำเภอจอมทอง เชียงใหม่

ความน่าสนใจคือจุดเริ่มต้นและเส้นชัยของ UTMB ได้มีการนำต้นสะหลีหรือต้นโพธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันเป็นมงคลของอำเภอจอมทอง เชียงใหม่ มาไว้ตรงซุ้มปล่อยตัวด้วย โดยเป็นการจำลองต้นสะหลี 3 ต้น ขึ้นรูปด้วยไม้ไผ่ โดยสล่าหรือช่างฝีมือชาวล้านนามาสร้างงานไว้โดยที่ไม่ได้ใช้ตะปูหรือโลหะใดๆ ในการยึดเกาะเลย และนักวิ่งก็จะลอดซุ้มนี้ออกไปด้วยความเป็นสิริมงคล ก่อนจะกลับมายังจุด Finish ที่นี่อีกเช่นกัน

เส้นทางการวิ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่แต่ละจุด และเขายังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการมีเฮลิคอปเตอร์ Airbus คอยลาดตระเวนเหนือเส้นทางการแข่งขัน และแสตนด์บายคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 3 วันของการแข่งขัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในบูธหนึ่งของงานที่ได้รับความสนใจก็คือบูธขายของที่ระลึก Thailand by UTMB Official Merchandise ทั้งเสื้อยืด แก้วน้ำ กระติก กระเป๋าผ้า เราจะเห็นลวดลายที่น่าสนใจบนสิ่งของเหล่านี้ ซึ่งเป็นผลงานของ Matthieu Forichon วิศวกรที่ผันตัวมาเป็นนักออกแบบผู้มีแพสชั่นทั้งในด้านการวาดภาพประกอบและการวิ่ง จนโด่งดังจากการสร้างสรรค์ผลงานและพูดคุยเกี่ยวกับกีฬาการวิ่งผ่านตัวการ์ตูน และเขาก็ทำงานวาดภาพประกอบให้กับ UTMB ในปี 2019-2020 จนเป็นที่จดจำในลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ ติดตามผลงานของเขาเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม Des Bossed et Des Bulles

ผลงานของนักวาดภาพประกอชาวฝรั่งเศส Matthieu Forichon

สำหรับคนที่วิ่งมาราธอนมาได้สักพัก การวิ่งเทรลเหมือนเป็นเสต็ปขั้นต่อไป เพราะท้าทายมากขึ้น แถมยังผสมการท่องเที่ยว สัมผัสธรรมชาติ และการออกกำลังกายไปในตัว โดยเฉพาะโลเกชั่นแบบดอยอินทนนท์ครั้งนี้ นักวิ่งก็จะได้วิ่งผ่านป่าเขาที่สูงชัน มีหินมีหญ้า ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ที่ได้เห็นวิถีชีวิตคนบนดอย รวมไปถึงนาข้าวกว้างใหญ่ที่กำลังเป็นสีเขียวชอุ่ม กลายเป็นแลนด์สเคปที่สวยสะพรึง ดึงดูดให้นักวิ่งได้เอนจอยกับธรรมชาติสวยๆ เป็นการผสมระหว่างกีฬาและการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว

https://www.youtube.com/watch?v=kes2xN5z1IQ&t=11s

เราเห็นบรรยากาศตั้งแต่การปล่อยตัวจากจุดสตาร์ทซึ่งทุกคนมาด้วย energy ที่แรงกล้า ไปจนถึงวันที่มีนักวิ่งกลับเข้ามาที่เส้นชัย ทั้งแบบภาคภูมิพร้อมเสียงเชียร์ลั่นเรซของคนดู และแบบที่มาด้วยท่าทางและสีหน้าเหนื่อยล้า แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นและการชนะใจตนเองอยู่ในนั้น ซึ่งความภูมิใจของคนไทยก็คือ ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 เป็นนักวิ่งชาวไทยที่กวาดรางวัลมาแล้วหลายสนาม อย่างพี่สัญญา คานชัย ในวัย 46 ปี เขาพิชิตระยะทาง 170 กิโลเมตร ได้เป็นคนแรก

สัญญา คานชัย ผู้ชนะอันดับ 1 Thailand by UTMB 2020 พิชิตระยะทาง 170 กิโลเมตร เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก

รายการวิ่งอัลตราเทรล Thailand by UTMB จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยอีกครั้งในปีหน้า ช่วงวันที่ 4-6 พ.ย. 2564 ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thailandbyutmb.com

—————————————–

ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์

หมู่บ้านแม่กลางหลวงและบ้านผาหมอน

นาข้าวขั้นบันไดที่หมู่บ้านแม่กลางหลวง

จุดนี้คือหนึ่งในเส้นทางของนักวิ่งเทรล Thailand by UTMB เป็นจุดที่อยู่อาศัยของชาวบ้านปะกากะญอ ซึ่งยังคงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ในช่วงฤดูทำนา เราจะเห็นทุ่งนาข้าวขั้นบันไดสีทองอร่ามไปหมด และในหมู่บ้านก็มีร้านกาแฟอยู่ 3 แห่ง ร้านแรกที่จะเจอก็คือ โถ่บิเบ (คำในภาษาปะกากะญอ แปลว่า นกฟีนิกซ์) เขาชงกาแฟให้ทานฟรีๆ เลย และเราก็สามารถอุดหนุนกาแฟกลับไปชงดื่มเองที่บ้าน หรือของที่ระลึกอย่างเสื้อผ้าแบบชนเผ่าปะกากะญอ ในขณะที่ถ้าเดินต่อๆ ไปอีก ก็จะเจอร้านกาแฟเล็กๆ บรรยากาศดีบนภูเขา ที่มีชาวบ้านนั่งทอผ้าให้ดูไปด้วย นอกจากนี้ใครสนใจมาพักค้างคืน เขาก็มีโฮมสเตย์ของชาวบ้าน บรรยากาศดี ซึ่งให้เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตประจำวันของชาวไทยภูเขาไปด้วย

—————————————–

พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

สองพระมหาธาตุที่อยู่เคียงคู่กันจนกลายเป็นแลนด์มาร์กของดอยอินทนนท์ที่ใครไปใครมาก็ต้องแวะมาสักการะ ฝรั่งจะรู้จักที่นี่ว่าเจดีย์ papa mama เพราะกองทัพอากาศและประชาชนร่วมกันสร้างพระมหาธาตุนภเมทนีดลถวายพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 เมื่อปีพ.ศ. 2530 ส่วนพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อปีพ.ศ. 2535 นอกจากจะได้มาไหว้พระเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ยังได้เดินเล่นในสวนดอกไม้สวยๆ แถมยังขึ้นไปดูวิวทะเลหมอกที่ด้านบนได้อีกด้วย

—————————————–

สถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์

ร้านอาหารที่สถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์

สถานีวิจัยด้านไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผล ซึ่งมีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ และโรงเรือนที่ปลูกพันธุ์ไม้อย่างกล้วยไม้ เฟิร์น สวนกุหลาบพันปี และโรงเรือนปลูกผัก ความเก๋คือเขามีร้านอาหารสโมสรที่ใช้วัตถุดิบพืชผักต่างๆ ที่ปลูกที่นี่ รวมถึงโครงการหลวงอื่นๆ มาทำอาหารหลากหลายเมนู อร่อยสุดๆ โดยเฉพาะผักสด

—————————————–

น้ำตก

บนดอยอินทนนท์มีน้ำตกหลายแห่ง อย่างเช่น น้ำตกสิริภูมิที่ไหลลงจากหน้าผาสูงชัน น้ำตกแม่ยะที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยอันดับต้นๆ ของไทย มีชะง่อนหินบางช่วงให้นักท่องเที่ยวเข้าไปหลบละอองไอน้ำที่ตกกระทบ มองดูเหมือนม่านหมอกสีขาว น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำดิ่งจากหน้าผาไหลแรงสาดกระเซ็นสร้างความชุ่มชื้นไปทั่วบริเวณ โดยจะมีสะพานไม้และผาแว่นแก้วที่คนชอบไปถ่ายรูป

—————————————–

กาดม้ง (ตลาดม้ง)

อยู่ไม่ไกลจากสถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์ ถูกใจสายช็อปปิ้ง เพราะมีของให้แวะชิมแวะช็อป ตั้งแต่ผัก ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง น้ำผึ้ง ไวน์ และเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้

Leave a Reply