ประวัติศาสตร์ ศิลปะร่วมสมัย สตรีทอาร์ต อาหารและไลฟ์สไตล์แบบวีแกน และไนต์คลับที่หลุดโลก นี่คือสิ่งที่รวมอยู่ในเบอร์ลินแบบที่เดินไปมุมไหนก็ต้องพบเจอ ซึ่งมันคือเหตุผลที่ทำให้เราเดินทางมาที่นี่…เมืองหลวงของเยอรมนี
เบอร์ลินในฤดูใบไม้ร่วงสำหรับเราดูโรแมนติกแต่ก็ออกจะเหงาๆ ไปนิด ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองไปทั่วเมือง อุณหภูมิประมาณ 8-15 องศา บางวันไม่มีแดดเลย บางวันมีลมแรงแถมฝนตกด้วยซ้ำ แต่วันไหนมีแดดขึ้นมาบ้าง จะเห็นผู้คนออกมาทำกิจกรรมด้านนอกกันมากขึ้น รวมถึงตัวเราที่รีบแต่งตัวออกไปเดินเที่ยวและถ่ายรูป
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/Berlin-autumn.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4383_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
กรุงเทพฯ-สิงคโปร์-เบอร์ลิน
จากกรุงเทพฯ ไปเบอร์ลิน ไม่มีไฟลท์บินตรง แต่ก็สามารถเดินทางง่ายๆ ได้หลายวิธี
วิธีแนะนำที่ 1 คือ เดินทางโดยสายการบิน Scoot เพราะมีไฟลท์บินตรงจากสิงคโปร์ไปยังสนามบิน Berlin Brandenburg ในราคาประหยัด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง ดังนั้นการเลือกบินจากกรุงเทพฯ ไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์นั้นสะดวกมาก เพราะสนามบินชางงีได้จัดอันดับเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2023 (World’s Best Airport) นอกจากความสะอาดเป็นระเบียบ มีที่นั่งพักให้เลือกหลายมุมแล้ว ก็ยังมี free wifi มีร้านอาหาร ร้านหนังสือ ทำให้การต่อเครื่องรื่นรมย์มาก
วิธีแนะนำที่ 2 คือ เดินทางโดยสายการบิน Thai Airways จากกรุงเทพฯ บินตรงไปลงสนามบินเมืองแฟรงค์เฟิร์ต (ประมาณ 12 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นสนามบินขนาดใหญ่ของเยอรมนี จากนั้นสามารถต่อรถไฟอีกราวๆ 4 ชั่วโมงมายังเบอร์ลิน
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/Scoot-to-Berlin-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
พอถึงสนามบิน Berlin Brandenburg ทุกคนสามารถซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองได้จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติหรือซื้อผ่านแอปฯ BVG ก็สะดวกมาก เลือกได้เป็นตั๋วรายเที่ยวหรือรายวัน
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7078_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
ส่วนเราเลือกใช้บัตร Berlin Welcome Card เป็นบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เราไม่ต้องคอยกังวลกับเรื่องของโซนหรือวิธีเดินทาง เพราะว่าใช้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในเบอร์ลินได้ทุกประเภท ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่ต้องการเดินทาง และยังใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้สูงสุดถึง 50% ที่สนามบิน สามารถไปซื้อได้ง่ายๆ ที่เคาน์เตอร์ของการท่องเที่ยวเบอร์ลินชั้น G หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระออกมาแล้ว
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7548_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม บัตร Berlin Welcome Card
ขนส่งสาธารณะในเบอร์ลินสะดวกมากมาย มีทั้งรถไฟ S-bahn (รถไฟชานเมือง) U-bahn (รถไฟใต้ดิน) รถบัส และแทรม นอกจากนี้คนเบอร์ลินเองก็ยังชอบขี่จักรยานและสกูตเตอร์ โดยเขาจะมีจุดให้เช่า เราสามารถจัดการผ่านแอปพลิเคชั่น ยืมรถจากจุดหนึ่ง แล้วไปคืนอีกจุดหนึ่งก็ได้ แต่จะเหมาะสำหรับวันที่อากาศดีแบบฝนไม่ตกและไม่หนาวเกินไป
ที่พักแนะนำ – Lulu Guldsmeden Berlin
ร่องรอยของกำแพงเบอร์ลินและสงคราม
ช่วงเวลาที่เรามาเบอร์ลิน เป็นช่วงเวลาที่สงครามชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอลเพิ่งก่อตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2023 การมาเยือนเบอร์ลินจึงทำให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านสถานที่จริงและข้อมูลหลักฐานต่างๆ ในมิวเซียม และเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เพราะเบอร์ลินคือศูนย์กลางนาซีเยอรมัน นำโดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เคยมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจนเสียชีวิตไปกว่า 6 ล้านคน และกลายเป็นบาดแผลฝังลึกของมนุษยชาติที่สุดครั้งหนึ่ง อีกทั้งพรรคนาซีก็ยังเป็นชนวนของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเยอรมันไปบุกครองโปแลนด์ ทำให้ฝรั่งเศส อังกฤษ ประกาศสงครามกับเยอรมนี และลุกลามกลายเป็นประเทศส่วนใหญ่ในโลกต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/Berlin-wall.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
พอสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เยอรมนีอยู่ในฝ่ายแพ้สงคราม เบอร์ลินซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมือง ก็กลายเป็นสมรภูมิหนึ่งของสงครามเย็นไปอีก เหมือนเป็นจุดปะทะกันระหว่างสองขั้วอุดมการณ์ คือเสรีนิยมของฝั่งอเมริกากับคอมมิวนิสต์ของฝั่งสหภาพโซเวียต เป็นที่มาของการสร้างกำแพงเบอร์ลิน เพื่อแบ่งเยอรมนีออกเป็นสองส่วนเป็นเวลากว่า 28 ปี ได้แก่ ฝั่งตะวันตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝั่งเสรีนิยมอย่างอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ส่วนฝั่งตะวันออกอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต ก่อนจะมีการทลายกำแพงเบอร์ลินลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 และรวมเยอรมนีตะวันตก-ตะวันออกกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นการสิ้นสุดเผด็จการในฝั่งเยอรมนีตะวันออก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7184_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
10 แลนด์มาร์กในเบอร์ลินที่คนอินประวัติศาสตร์ต้องไปชม
1. Brandenburg Gate
เราขอให้ทุกคนนั่ง U-Bahn ไปลงสถานี Brandenburger Tor เพื่อเริ่มสำรวจเมืองเบอร์ลินจากแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดของเมืองก่อน ซุ้มประตูบรันเดนบวร์กเป็นสัญลักษณ์ของการรวมชาติเยอรมัน เครื่องหมายแห่งสันติภาพและเสรีภาพ เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก โดยจำลองแบบมาจากวิหาร Acropolis ในกรุงเอเธนส์ เป็นจุดที่เชื่อมกับถนนเส้นสำคัญอย่าง Unter den Linden ถนนที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน มุ่งตรงไปยังพระราชวังกรุงเบอร์ลิน
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7159_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7168_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4358_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4362_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
บริเวณนั้นยังมีสถานที่สำคัญให้เดินเยี่ยมชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รูปปั้นของกษัตริย์ Friedrich ที่ 2 แห่งปรัสเซีย, Berlin State Library, Museum Island, Paris Square, New Guardhouse with Memorial to the victims of the 20th century เป็นต้น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4363_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4364_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4379_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
2. Checkpoint Charlie
หนึ่งจุดประวัติศาสตร์ที่พลาดไม่ได้ บริเวณนี้คือด่านข้ามกำแพงเบอร์ลินระหว่างเขตปกครองของอเมริกาและของสหภาพโซเวียต จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสงครามเย็น ส่วนคำว่าชาร์ลีไม่ใช่ชื่อใคร แต่มาจากคำเรียกเวลาเจ้าหน้าที่ในสมัยนั้นเขาวิทยุถึงกัน ก็จะมีชาร์ลีเป็นรหัสลับในการเรียก ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เช็คอินและถ่ายรูปที่ป็อปปูลาร์ที่สุดแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4356_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
3. Berlin Wall Memorial at Bernauer Strasse
อนุสรณ์สถานกำแพงเบอร์ลิน บนถนนแบร์เนาเออร์ (Bernauer) สามารถเดินทางโดยรถไฟ S-Bahn ไปลงสถานี Berlin Nord Bahnhof หรือรถไฟ U-Bahn ไปลงสถานี Bernauer Strasse
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/gedenkstaette06_c_visitBerlin_Foto_Dagmar_Schwelle_2016.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
ถนนเส้นนี้ตอนแรกที่สร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้น ตัวถนนอยู่ในเขตเบอร์ลินตะวันตก แต่อาคารที่อยู่ริมถนนถูกตัดให้ไปอยู่ในเขตเบอร์ลินตะวันออก โดยมีประตูหน้าบ้านเป็นส่วนหนึ่งของแนวกำแพง ทางการจึงมีการมาก่ออิฐปิดช่องประตูหน้าต่าง ไม่ให้ผู้คนในอาคารบ้านเรือนเหล่านี้หลบหนีเข้าไปยังฝั่งตะวันตก แต่หลายคนใช้วิธีกระโดดออกจากหน้าต่างชั้นบนลงมาที่ถนนและเสียชีวิต ในเวลาต่อมาจึงมีคำสั่งให้ทุบอาคารริมถนนเหล่านี้ทิ้ง เกิดเป็นพื้นที่ว่างคล้ายแนวกันชน เรียกว่า No man’s land
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/gedenkstaette12_c_visitBerlin_Foto_Dagmar_Schwelle_2016.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
4. East Side Gallery
แกลเลอรี่กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีแนวกำแพงเบอร์ลินที่ยังคงเหลืออยู่ความยาวกว่า 1.3 กม. แทนผืนผ้าใบในการวาดรูป โดยหลังจากมีการทลายกำแพงเบอร์ลินลงในปี 1989 ก็มีการเชิญเหล่าศิลปินหลากหลายเชื้อชาติหลากสไตล์กว่า 118 คน จาก 21 ประเทศ มาสร้างสรรค์ผลงานสตรีทอาร์ตบนกำแพงกว่าร้อยภาพ เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกของผู้คน ทั้งความหวัง ความดีใจ ความเศร้า
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4530_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4532_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
บางภาพดูเรียบง่าย แต่บางภาพก็เต็มไปด้วยเส้นสายที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน ขณะที่หลายภาพมีข้อความหรือโควทเกี่ยวกับสงคราม สันติภาพ และความโกรธแค้น แต่ภาพไฮไลท์ที่คนแวะมาดูเยอะที่สุด คือ ภาพ Fraternel Kiss โดย ดิมิทรี วรูเบล (Dimitri Vrubel) จิตรกรชาวรัสเซีย เป็นภาพที่ล้อเลียนเหตุการณ์จริง การจูบกันอย่างดูดดื่มของสองผู้นำของโลกคอมมิวนิสต์ เลโอนิด เบรจเนฟ (Leonid Brezhnev) ผู้นำโซเวียต และ เอริค โฮเน็กเกอร์ (Erich Honecker) ผู้นำเยอรมันตะวันออก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7834_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7839_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
5. Berlin Cathedral
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4385_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
มหาวิหารแห่งเบอร์ลินเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ที่ตั้งอยู่บน Museum Island ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ตัวโดมโดดเด่นด้วยสีฟ้าเขียว ปลายยอดสีเหลืองทองอร่าม อาคารประดับตกแต่งด้วยภาพโมเสกหลากสีสัน ประกอบขึ้นจากแผ่นกระเบื้องมากกว่าหลายแสนชิ้น ด้านในมีออร์แกนเก่าแก่ขนาดยักษ์และมันจะบรรเลงในวันสำคัญ รวมถึงการแสดงดนตรีคลาสสิกที่จัดขึ้นบ่อยครั้งภายในวิหารด้วย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7311_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
6. Alexanderplatz
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7483_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
จัตุรัสสำคัญ มีร้านค้าช็อปปิ้งเยอะมาก มีร้านอาหาร การแสดงข้างถนน และหอ TV Tower ที่สร้างโดยโซเวียต เป็นสัญลักษณ์ของคอมมิวนิสต์ และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเยอรมนี ข้างบนเป็นจุดชมวิวด้วย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/IMG_7484_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
7. Tiergarten
สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน พิ้นที่สีเขียวที่เปรียบเหมือนปอดของเมือง ผู้คนชอบมาพักผ่อน เดิน ขี่จักรยาน เล่นกีฬากลางแจ้ง รวมถึงเล่นสเก็ตที่ทะเลสาบในฤดูหนาว สมัยก่อนเคยเป็นพื้นที่ล่าสัตว์ กระทั่งปลายศตวรรษที่ 17 ได้ปรับเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นสถานที่เพื่อการพักผ่อน โดยได้แรงบันดาลใจจากสวนแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/Tiergarten-เบอร์ลิน.jpg?resize=480%2C600&ssl=1)
ในสวนมีพืชพันธุ์และสัตว์หลากหลายชนิด ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นสีเหลืองทองไปเกือบทั้งหมด เป็นภาพที่สวยงามและผ่อนคลายมาก ประดับประดาด้วยประติมากรรมหลายจุด รวมถึงสวนหิน
8. Friedrichstadt-Palast
โรงละครขนาดใหญ่วิจิตรงดงามบนถนน Friedrichstraße สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1919 หลังจากการทลายกำแพงเบอร์ลิน Palast แห่งนี้ถูกรีโนเวทกลับมาเป็นเธียเตอร์จัดแสดงโชว์แห่งแรกในเบอร์ลิน และยังคงมีการลงทุนต่อเนื่องเป็นหลักล้านเพื่อทำให้ที่นี่เป็นพาเลซสำหรับแสดงโชว์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในยุโรป
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/Friedrichstadt-Palast-Berlin.jpg?resize=640%2C406&ssl=1)
เราได้มีโอกาสไปชมการแสดง Grand Show “Falling in Love” ที่มีคณะนักเต้น นักร้อง นักแสดง ที่น่าตื่นตาสุดๆ ออกมาโชว์แบบสดๆ ในชุดเสื้อผ้าอลังการซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากคริสตัล Swaroski มูลค่ากว่า 100 ล้าน ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวปาริเซียงอย่าง ฌอง ปอล โกลติเยร์ (Jean Paul Gaultier) นอกจากนี้ฉากก็ใช้เอฟเฟกต์อลังการทั้งน้ำและไฟ รวมถึงการห้อยโหนกายกรรมที่น่าตื่นเต้น และโปรดักชั่นนี้เขาไม่มีการทัวร์ไปแสดงที่อื่น ความพิเศษคือต้องมาดูที่เบอร์ลินเท่านั้น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/Grand-Show-Falling-in-love-Berlin.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.palast.berlin/en
ร้านอาหารแนะนำไม่ไกลจาก Friedrichstadt-Palast
9. Potsdamerplatz
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4347_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ก่อนจะมีกำแพงเบอร์ลิน ที่นี่คือหัวใจสำคัญของเมือง เป็นแหล่งความเจริญของชุมชน แต่พอช่วงที่เยอรมนีถูกแบ่งออก จัตุรัสแห่งนี้กลายเป็นเขตแดนมรณะที่เป็นเส้นแบ่งฝั่ง west ฝั่ง east ของเบอร์ลิน ความเป็นชุมชนก็ดับวูบ แต่สำหรับปัจจุบันก็ได้กลับมาเป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้ง มีสถานีรถไฟขนาดใหญ่ และมีสิ่งก่อสร้างทันสมัยเกิดขึ้นเพียบ เช่น Hotel Esplanade, Debis Tower, Museum of German Film & Television, หอแสดงคอนเสิร์ตของวง Berlin Philharmonic Orchestra แถมในช่วงปลายปียังมีตลาดคริสต์มาสน่ารักๆ ให้ไปเดินหาซื้อของกินอร่อยๆ และเล่นเกมสนุกๆ ด้วย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4340_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4341_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4343_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
10. Memorial to the Murdered Jews of Europe
อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นแท่งคอนกรีตสีเทาจำนวน 2711 แผ่นมาเรียงต่อกัน สูงบ้างต่ำบ้าง บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 19,000 ตารางเมตร ดูคล้ายๆ หลุมศพ ขณะที่พื้นก็ลาดขึ้นลาดลงบ้าง แสดงถึงความสับสน ความไม่เข้าใจต่อความโหดร้ายที่มนุษย์เข่นฆ่ากันเองได้มากมายขนาดนี้ ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าไปเดินลัดเลาะไปตามแท่งคอนกรีตแต่ละแถว และจะรู้สึกหดหู่และวังเวงอย่างบอกไม่ถูก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/01/DSCF4584_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิวเซียมที่น่าไปเยี่ยมชมในกรุงเบอร์ลิน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเบอร์ลิน https://www.visitberlin.de/en