Lulu Guldsmeden Berlin (ลูลู กัลด์สเมเดน เบอร์ลิน) ตั้งอยู่ในย่านสุดฮิปของเบอร์ลิน เยอรมนี ไม่ไกลจาก Tiergarten และ Schöneberg สามารถนั่งบัสไปสามป้ายก็จะถึง Potsdamerplatz ที่เชื่อมต่อทั้งรถไฟ S-bahn, U-bahn ไปไหนมาไหนในเบอร์ลินสะดวกมากเลยทีเดียว
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/โรงแรม-เบอร์ลิน.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
เบอร์ลิน เป็นเมืองที่ให้ความสำคัญเรื่อง sustainability (ความยั่งยืน) และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในเมืองนี้ก็เชื่อมโยงกับการคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา โรงแรมที่เราได้มาพักทริปนี้ก็เช่นกัน เป็นโรงแรม 4 ดาวในคอนเซ็ปต์ eco-minded อยู่ในเครือโรงแรม Guldsmeden ที่เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ของคู่รักอย่าง Sandra และ Marc Weiner พวกเขาต้องการสร้างที่พักอันมีเอกลักษณ์ในแนวคิดอีโคในหลายๆ เมืองของยุโรป โดยเริ่มจาก Guldsmeden แห่งแรกที่ Guldsmedgade, Århus ในปี 1999 ก่อนจะขยายไปในเมืองต่างๆ อาทิ โคเปเฮเกน เบอร์ลิน ออสโล Reykjavik และยังมีวิลล่าในเมือง Menton ริมชายฝั่งโกตดาซูร์ ฝรั่งเศส และลักชัวรี่รีสอร์ทสุดชิลที่อูบุด บาหลี อินโดนีเซีย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7131_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
Luxurious Simplicity
นิยามของการออกแบบ Lulu Guldsmeden Berlin คือ Luxurious Simplicity หรือความหรูหราที่เรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและแคชวล ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม โดยเขาอยากให้แขกที่มาเข้าพักที่นี่ได้เอนจอยอย่างเต็มที่ สะดวกสบาย ขณะเดียวกันก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และมันก็ตอบโจทย์เทรนด์เรื่องนี้ในเบอร์ลินอย่างมาก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/DSCF4457_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ภายในตึกที่เคยเป็นอพาร์ตเมนต์มาก่อน ที่นี่ถูกรีโนเวทให้เป็น Lulu Guldsmeden ในดีไซน์ร่วมสมัย ให้กลิ่นอายแบบนอร์ดิกนิดๆ ผสมบาหลีหน่อยๆ เราเห็นการใช้ไม้เป็นวัสดุส่วนใหญ่ ทั้งพื้น เฟอร์นิเจอร์ แซมด้วยพื้นกระเบื้องในบางส่วนซึ่งเราคิดว่าลวดลายมันมีความเปอรานากันหน่อยๆ คล้ายพื้นกระเบื้องวินเทจที่สนามบินภูเก็ต
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7129_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7133_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 81 ห้อง เหมาะกับนักเดินทางทั้งแบบโซโล แบบเพื่อนฝูง คู่รัก หรือครอบครัว โดยเขามีห้องหลาย type ให้เลือก เรามาถึงวันแรกก่อนเวลาเช็คอิน พนักงานจึงนำทางเราไปยังล็อกเกอร์บริเวณด้านหลัง เพื่อเก็บกระเป๋า ตู้ล็อกเกอร์เขามีหลายไซส์ ซึ่งกระเป๋าเดินทาง 28 นิ้วของเราใส่เข้าไปได้สบาย
เรากลับมาที่โรงแรมในช่วงบ่ายและพบกับ General Manager ของที่นี่ เขาเอ่ยทักทายเราด้วยคำว่า ‘สวัสดีครับ’ ในท่าทีแบบดูเฟรนด์ลี่ยิ้มแย้มเกินคนเยอรมัน จึงเพิ่งได้รู้ว่าเขาเคยไปทำงานอยู่ที่เมืองไทยตั้งหลายปี และก็ชอบเมืองไทยมากๆ
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/DSCF4455_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ถึงเวลาขึ้นห้องพัก เราแอบแปลกใจนิดหน่อยที่ลิฟต์มันไม่ตรงไปยังชั้นของห้องพัก เราต้องไปเดินขึ้นบันไดต่อ ซึ่งทางพนักงานก็มาช่วยเรายกกระเป๋า อาจด้วยข้อจำกัดของความเป็นตึกเก่ายุโรปที่เคยเป็นอพาร์ตเมนต์มาก่อน เวลาเดินก็จะมีเสียงไม้ลั่นเป็นปกติ แต่เขาก็ปูพรมสวยๆ ไว้ตามทางเดิน ทำให้ไม่รบกวนแขกคนอื่นมาก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7435_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7436_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
ภายในห้อง type เริ่มต้น เรียกว่าห้อง Comfy บรรยากาศผ่อนคลาย มีเตียงนุ่มๆ มีทีวี และโต๊ะทำงาน ซึ่งเขาวางเวลคัมการ์ดพร้อมไบโอไดนามิกไวน์ 1 ขวดไว้เป็น complimentary แต่ว่าไม่มีตู้เย็น โดยรวมคือขนาดห้องพักของเราค่อนข้างเล็กกะทัดรัด เหมาะกับ solo traveler ราคาเริ่มต้นที่ราวๆ 100 euro ต่อคืน (ไม่รวมอาหารเช้า)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7438_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7441_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
ถัดไปคือห้องน้ำซึ่งออกแบบได้น่ารักมาก มีอ่างอาบน้ำให้เรานอนแช่น้ำอุ่นหลังจากออกไปเผชิญอากาศหนาวด้านนอกมา ส่วนอ่างล้างมือทำจากหิน จัดวาง amenities แบบออร์แกนิก ได้กลิ่นหอมจากธรรมชาติอ่อนๆ ใช้แล้วดีต่อผิวมาก โดยเฉพาะโลชั่นและบอดี้ออยล์ ใครสนใจซื้อกลับบ้าน เขาก็มีโปรดักต์สำหรับวางขาย สามารถติดต่อที่รีเซ็ปชั่นได้เลย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7439_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
เริ่มต้นมื้อเช้าสุขภาพดีด้วยอาหารออร์แกนิก 100%
ช่วงเช้าตื่นมา ร้านอาหารชั้นล่างเป็นอะไรที่บรรยากาศดีมากๆ แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาทางกระจก บนโต๊ะอาหารประดับแจกันดอกไม้ ส่วนผนังก็ประดับภาพวาด
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/DSCF4448_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7658_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7659_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
เขามีบุฟเฟต์ไว้บริการ ซึ่งก็จะเน้นไปที่เมนูเพื่อสุขภาพ มีผักผลไม้ และขนมปังต่างๆ ทุกอย่างเป็นออร์แกนิก 100% มาพร้อมน้ำผลไม้ออร์แกนิก และเรายังสามารถสั่งกาแฟได้ตรงเคาน์เตอร์ ร้านนี้เปิดถึงช่วงเย็นแต่จะเปลี่ยนเป็นเมนูฟิวชั่น เมดิเตอร์เรเนีย-เลบานีสสไตล์
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7654_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
สำรวจย่านฮิปของเบอร์ลินใกล้ๆ โรงแรม
ทางโรงแรมมีจักรยานไว้ให้บริการด้วย สำหรับการออกไปสำรวจเบอร์ลินแบบช้าๆ ซึ่งแถวใกล้ๆ นี้ก็จะมีสถานที่ฮิปๆ อย่างร้านอาหาร/บาร์เก๋ หนึ่งในนั้นที่เราอยากแนะนำคือ Victoria Bar ที่สามารถเดินไปจากโรงแรมได้เลย ใครจะนั่งบัสไปที่ Postdamer Platz แถวนั้นก็มีสถานที่สำคัญๆ ให้เยี่ยมชมเยอะ เช่น Museum of German Film & Television, Theatre am Potsdamer Platz, Kulturforum, สถานที่แสดงคอนเสิร์ตของวง Berlin Philharmonic Orchestra หรือใครอยากไปผ่อนคลายแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ก็สามารถแวะไปที่สวนเทียร์การ์เทิน (Tiergarten) สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเบอร์ลิน และใหญ่เป็นอันดับสามของเยอรมนี พื้นที่สีเขียวแห่งนี้เปรียบเสมือนปอดของชาวเบอร์ลิน คนชอบมาเดิน ขี่จักรยาน และเล่นกีฬากลางแจ้ง ถ้าได้ไปเดินเล่นที่นี่ก็จะรู้ว่าคนเบอร์ลินรักธรรมชาติแค่ไหน
ร้านอาหารแนะนำในเบอร์ลิน
Lulu Guldsmeden Berlin เองก็ทำให้เราเข้าใจแนวคิดแบบอีโคมากขึ้น เชื่อว่าแขกหลายคนโดยเฉพาะที่เป็นคนเอเชียซึ่งเรามักคุ้นเคยกับการบริการแบบเต็มที่ ให้เหลือดีกว่าขาด ถ้ามาเจอความเป็นอีโค แรกๆ อาจจะยังไม่ชิน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่ไม่มีตู้เย็น ไม่มีแอร์ หรือลิฟต์ที่อาจจะไปส่งไม่ถึงในต่อเดียวในบางห้อง แต่เอาจริงๆ แล้ว มนุษย์ไม่ควรบริโภคหรือการตักตวงใช้ประโยชน์จากธรรมชาติมากเกินไป การตัดสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง ไม่ได้ทำให้เราเอนจอยการเข้าพักได้น้อยลง กลับกันคือเราอาจเพิ่งมาตระหนักว่าของบางอย่างมันก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เราก็ยังอยู่ได้ แถมประหยัดพลังงานด้วย
นี่คือโรงแรมในเบอร์ลินที่ให้แนวคิดของการเป็นนักเดินทางที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิยาม Luxurious Simplicity
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/DSCF4460_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2023/12/IMG_7132_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
Lulu Guldsmeden Hotel Berlin
Potsdamer Straße 67, Berlin, Germany
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://guldsmedenhotels.com/lulu-guldsmeden หรือติดต่อ lulu@guldsmedenhotels.com และ +49 30 25558720