โรงแรมสวยในเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี มีอยู่หลายโรงแรม แต่ 25 hours hotel Florence Piazza San Paolino คือโรงแรมที่มาพร้อมดีไซน์สุดครีเอทีฟแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ฉีกกฏการออกแบบหลายอย่างจนน่าสนุก ด้วยการนำเอาความเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์จากวรรณคดีชื่อดังของอิตาลีอย่าง The Divine Comedy ที่แต่งโดยกวีชาวฟลอเรนซ์แท้ๆ ดันเต อลิกิแยรี (Dante Alighieri) มาเป็นไอเดียในการออกแบบ
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0731_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
25 hours hotel Florence Piazza San Paolino เป็นโรงแรม 4 ดาวในคอลเลกชั่นของ Ennismore บริษัท lifestyle hospitality ที่นำเสนอโรงแรมและรีสอร์ทที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์กว่า 130 แห่งทั่วโลก
ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://ennismore.com/
เราใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟหลักของเมืองฟลอเรนซ์ Santa Maria Novella ราวๆ 5 นาทีก็มาถึงโรงแรมแห่งนี้ ถือว่าเป็นโลเกชั่นที่ปังมาก เพราะอยู่ใจกลางเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ ให้เราสามารถไปเดินสำรวจที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในเมืองฟลอเรนซ์ได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังรายรอบไปด้วยร้านช็อปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ น่ารักๆ เต็มไปหมด
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0727_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0479_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
The Devine Comedy ของดันเต อลิกิแยรี (Dante Alighieri) เป็นวรรณคดีเอกของอิตาลีในยุคศตวรรษที่ 14 เทียบได้กับยุคสุโขทัย บอกเล่าเรื่องราวความเชื่อทางศาสนา เกี่ยวกับดินแดนหลังความตาย แบ่งเป็น 3 เล่ม ได้แก่ นรก (Inferno) แดนชำระ (Purgatorio) และสวรรค์ (Paradiso) ซึ่งเล่มที่โด่งดังที่สุดก็คือเล่มนรกที่บอกว่าใครทำบาปอะไร จะต้องไปอยู่ในนรกขุมไหนกันบ้าง เราในฐานะเด็กอักษรฯ ที่แม้จะไม่ได้เอกภาษาอิตาเลียน แต่ก็เคยอ่านวรรณคดีแปลเรื่องดังเรื่องนี้มาก่อน มันทำให้การมาเที่ยวฟลอเรนซ์ครั้งนี้ของเราสนุกขึ้นมาก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5044_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5065_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ห้องพักของ 25 hours hotel Florence Piazza San Paolino ทั้งหมด 171 ห้อง แบ่งออกเป็นฝั่งสวรรค์ที่ตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก และฝั่งนรกที่ตกแต่งด้วยสีแดงและสีดำ ซึ่งความสนุกของการเข้าพักที่โรงแรมครั้งนี้ก็คือ เขาส่งเรามาอยู่ห้องฝั่งนรกล่ะ…
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0912_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0950_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
คนออกแบบอินทีเรียร์ให้กับโรงแรมนี้คือ เปาลา นาโวเน (Paola Navone) ดีไซเนอร์หญิงชาวอิตาเลียนที่ปัจจุบันอายุกว่า 74 ปีแล้ว แต่สร้างสรรค์งานออกแบบได้โมเดิร์นและเปรี้ยวสุดๆ เปรี้ยวยังไง ก็ลองคิดภาพการใช้สีแดงสดมาเพนต์และตกแต่งห้องนอนฝั่งนรกทั้งหมด มันทั้งรู้สึกสนุก เร่าร้อน เซ็กซี่ และกระตุ้นพลังงานในตัวแบบสุดๆ
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0908_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
ตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงแรม เรารู้สึกว่าหันมองอะไรก็น่าสนใจไปหมด ใกล้ๆ เคาน์เตอร์เช็คอินจัดวางหนังสือ โปสการ์ด และโปรดักต์ amenities ต่างๆ ของโรงแรมวางขาย ถัดมาจะเห็นร้านอาหาร San Paolino ที่โถงตรงกลางหลังคากระจก ซึ่งเป็นร้านแนะนำในมิชลินไกด์ และยังมี Negroni bar และร้านเบเกอรี่/คาเฟ่ Alimentari
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5152_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5147_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_1138_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_1140_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
พอเช็คอิน รับกุญแจเสร็จ พนักงานนำเราไปยังลิฟต์ ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเดินทางไปสู่ดินแดนหลังความตายจริงๆ เปิดลิฟต์มาเจอทางเดินที่ตกแต่งด้วยนกกา ก่อนจะมาถึงห้องพัก Medium Inferno ของเราที่มีชื่อว่า Cassio แปะที่หน้าห้อง เป็นชื่อตัวละครหนึ่งในเรื่อง The Divine Comedy
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5140_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ห้องขนาด 21-24 ตร.เมตร กำลังพอดีสำหรับแขก 1-2 คน ความว้าวคือในห้องตกแต่งด้วยสีแดงเข้ม แบบที่เราไม่คิดว่าดีไซเนอร์จะกล้าใช้สีสดขนาดนี้ในห้องนอน ความรู้สึกแรกคือกังวลนิดนึงว่าจะหลับไหม เพราะเป็นคนหลับยากอยู่แล้ว แต่บอกเลยว่าพออยู่ไปสักพัก สายตาเราจะปรับให้เข้ากับโทนสีในห้องเอง และเตียงที่นุ่มน่านอนมากๆ ช่วยให้เราหลับสนิทตลอดคืน ยากอยู่เรื่องเดียวคือเวลาแต่งหน้า แสงส้มๆ บวกกับสีแดงในห้อง ทำให้เรามองสีจริงบนผิวยากสักหน่อย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0735_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0744_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0728_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0734_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน มีตั้งแต่ที่แขวนเสื้อผ้าที่แขวนกระเป๋า Freitag มาให้เราได้ใช้ฟรี โต๊ะทำงานและโทรศัพท์แบบวินเทจ ตู้เย็น ฟรีมินิบาร์ ลำโพงบลูทูธ และห้องน้ำที่แต่งเก๋มากด้วยประตูกระจกที่เขียนคำว่า Welcome to Hell!!! ด้วยสีแดง มาพร้อมอ่างอาบน้ำและ amenities กลิ่นหอม นอกจากนี้ก็ยังมีห้องประเภทที่ขนาดใหญ่ขึ้นไปอย่างห้อง large ห้อง gigantic และแบบที่เป็นอพาร์ตเมนต์ไปเลย โดยทุกขนาดจะมีทั้งฝั่งที่ตกแต่งแบบสวรรค์และนรก
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5137_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/DSCF5133_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ความสนุกไม่ได้จบแค่ในห้อง แต่โรงแรมยังมีกิจกรรมสนุกให้เราได้ทำอีกมากมาย อย่างแรกเลยทุกคนรู้ดีว่าในตัวเมืองฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่หาที่จอดรถยากมากถึงมากที่สุด และรถสาธารณะก็จะเป็นรถเมล์คันจิ๋วเพื่อที่จะซอกแซกไปตามซอยแคบๆ บนถนนในเมืองเก่าได้ การเดินจึงเป็นวิธีสำรวจฟลอเรนซ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณเมื่อยขา โรงแรม 25 hours hotel Florence เขาเตรียมจักรยานไว้ให้
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_1141_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
นอกจากนี้ยังมีห้องซาวน่า บริการฟรีสำหรับแขกทุกคน มียิมและห้องโยคะ พิลาทีส ตามมาด้วยห้องสมุด Sala delle Celesti Armonie ที่มีหนังสือดีๆ ให้อ่าน เครื่องเสียงวินเทจให้ฟังเพลงจากแผ่นเสียง และโต๊ะพูลด้วย และที่พิเศษคือ Cinema Paradiso ห้องดูหนังที่เขาจะคัดสรรหนังดีๆ มาฉายให้ดูฟรีทุกวันอาทิตย์ ดูไปจิบค็อกเทลไป เพลิดเพลินที่สุด
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_0934_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_1144_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
ประสบการณ์เข้าพักในขุมนรกตามคติความเชื่อของกวีชาวฟลอเรนซ์ ที่ 25 hours hotel Florence Piazza San Paolino เราได้ทั้งความตื่นเต้น ความสนุก และความผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าเป็นชีวิตหลังความตาย เราขอไปพักห้องสวรรค์ก็อาจจะดีกว่านะ….
‘The path to paradise begins in hell.’ —- Dante Alighieri (“หนทางไปสวรรค์เริ่มต้นที่นรก” ดันเต กล่าวไว้)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/IMG_1145_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/02/S__3490138_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
25 hours hotel Florence Piazza San Paolino
Piazza di S. Paolino, 1, Florence, Italy
Santa Maria Novella
ราคาเริ่มต้นคืนละประมาณ 8,000 บาท จองที่พักและดูข้อมูลเพิ่มเติม https://www.25hours-hotels.com/en/hotels/florence/piazza-san-paolino
และดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมในคอลเลกชั่นของ Ennismore ได้ที่ https://ennismore.com/