รีสอร์ทสวยพัทยาเปิดใหม่ต้นปี 2566 Andaz Pattaya Jomtien Beach ทำให้การเดินทางมาพัทยาของเราเปลี่ยนความรู้สึกไปอย่างสิ้นเชิง จากภาพจำเดิมๆ ที่รู้สึกว่าพัทยาจะมีแต่ที่เที่ยวที่พักแบบแมสๆ และปาร์ตี้คึกคักเป็นหลัก กลายมาเป็นการพักผ่อนที่แสนสงบท่ามกลางความสดชื่นของธรรมชาติทั้งต้นไม้ใหญ่ ทะเล วัฒนธรรมชุมชนที่สวยงาม แถมยังมีสปาสุดหรูของปัญญ์ปุริเข้ามาอยู่ในรีสอร์ท

สีเขียวของต้นไม้ใหญ่บรรจบกับสีฟ้าแห่งท้องทะเล

ต้นจามจุรีที่แผ่กิ่งก้านอยู่ในสนามหญ้าและบ่อน้ำสดชื่นตรงบริเวณ Raintree Court หน้าทางเข้ารีสอร์ท ทำให้เรารู้สึกว่าการนั่งรถมาชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ หายเมื่อยล้าไปตั้งแต่ยังไม่ได้เช็คอิน ต้นไม้นี้เป็นต้นเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ก่อนรีสอร์ทจะก่อตั้ง เป็นความตั้งใจของทางรีสอร์ทที่จะออกแบบพื้นที่โดยไม่ต้องทำลายธรรมชาติที่มีอยู่เดิม บนพื้นที่กว่า 40 ไร่นี้จึงเต็มไปด้วยสีเขียวทั้งของเดิมและของใหม่ที่แต่งเติมเข้าไป กลายเป็นที่อยู่อาศัยของนก กระรอก มากมาย มองแล้วฮีลใจ

Raintree Court หน้าทางเข้ารีสอร์ท

แบรนด์โรงแรมหรูระดับโลก x เสน่ห์ของชุมชนท้องถิ่น

รีสอร์ทแห่งนี้มีชื่อเต็มว่า Andaz Pattaya Jomtien Beach – a Concept by Hyatt เป็นแบรนด์โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในเครือไฮแอทที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลากหลายเมืองทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ซานดิเอโก ลอนดอน สิงคโปร์ และล่าสุดก็คือแอนดาซ พัทยา แห่งนี้ ซึ่งแต่ละโลเกชั่นจะมีการออกแบบโดยดึงเอาเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ มานำเสนอ อย่างรีสอร์ทแอนดาซที่พัทยา จ.ชลบุรี ก็ได้ดึงเอาเสน่ห์ของงานฝีมือชุมชนอย่างงานจักสานพนัสนิคมมาเป็นรายละเอียดในการตกแต่ง พร้อมเติมกลิ่นอายของความเป็นหมู่บ้านชาวประมงและสไตล์ทรอปิคัล ทั้งหมดเป็นฝีมือการออกแบบของบริษัทสถาปัตยกรรมชื่อดัง A49 ที่สร้างความแตกต่างให้กับ ‘พัทยา’ แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

ความชิคเก๋ของที่นี่คือการรวมไว้ทั้งความลักชัวรี่ รสนิยมระดับเวิลด์คลาส ความเป็นไทย และธรรมชาติที่จะช่วยชาร์จแบตให้ร่างกายและจิตใจของเราได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลนัก เราสามารถมาใช้เวลาช่วงวีคเอนด์กับครอบครัว กับเพื่อนฝูง หรือแม้แต่ solo traveler ก็เหมาะนะ เพราะความเงียบสงบทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง มารีแล็กซ์ในสปา เดินไปปล่อยใจที่ชายหาด หรือนั่งทานอาหารอร่อยๆ ตอบโจทย์การพักผ่อนหลากหลายรูปแบบ

จากบ้านไม้สักโบราณถูกเติมแต่งให้ร่วมสมัย

สิ่งที่เราเซอร์ไพรซ์และไม่คิดว่าจะได้เห็นจากการมาเที่ยวพัทยาครั้งนี้ ก็คือบรรยากาศภายในรีสอร์ทที่ทำให้เราเผลอนึกไปว่ามาเชียงใหม่ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ ‘บ้านไม้สักแบบดั้งเดิม’ อายุกว่า 70 ปี ที่ได้รับการอนุรักษ์และบูรณะให้เป็นโรงน้ำชา (Teahouse) หรือสถานที่จัดเลี้ยงสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

ขณะที่บ้านมรดกอันงดงามอีก 2 หลังของตระกูลเจียอาภา ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมและที่ดินผืนนี้ ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นที่พักที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโรงแรม ได้แก่ ‘Manor House’ คฤหาสน์ 4 ห้องนอนแบบดูเพล็กซ์ และ ‘Presidential Heritage House’ คฤหาสน์ 6 ห้องนอนอันสวยงาม ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว ราคาห้องพักที่ว่านี้สูงถึง 500,000 บาทต่อคืนเลยทีเดียว

แต่ไม่ต้องตกใจไป Andaz Pattaya ยังมีห้องพักอีกหลากหลายรูปแบบให้เลือก จากทั้งหมด 204 ห้อง ขนาดเริ่มต้น 50 ตารางเมตร แบ่งไปตามโซนต่างๆ ครั้งนี้เราได้พักที่ห้อง Lagoon Access เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้จากประตูระเบียงห้อง แล้วก็ว่ายต่อไปยังสระว่ายน้ำใหญ่ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องพูลสวีท ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้อง Beachfront Suites บนหาดทรายขาวละเอียด

ภายในห้องมีกระจกที่ตกแต่งด้วยกลอนสุนทรภู่ และประดับด้วยของตกแต่งจักสานของพนัสนิคมซึ่งเราเคยได้ยินมาว่าเป็นงานฝีมือที่เป็นที่ต้องการของทั่วโลก ส่งออกไปหลายประเทศ และเป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น

ยิ่งพอมาอยู่ในรีสอร์ท 5 ดาวแบรนด์ระดับโลกนี้แล้ว ยิ่งรู้สึกภูมิใจในมรดกภูมิปัญญาของชาวบ้าน เพราะพนัสนิคมเป็นแหล่งผลิตเครื่องจักสานที่สำคัญของประเทศ และมันเล่าเรื่องความเป็นมาของวิถีชีวิตผู้คนในท้องถิ่นที่เมื่อก่อนประกอบอาชีพ ทำไร่ ทำนา จึงนำไม้ไผ่ที่หาได้จากในละแวกใกล้เคียงมาทำเป็นอุปกรณ์เครื่องมือทำมาหากิน ก่อนจะพัฒนาขึ้นมาเป็นงานหัตถกรรมฝีมือละเอียด เติมความคิดสร้างสรรค์ จนโด่งดังไปไกลทั่วโลก

ภายในห้องพัก นอกจากเตียงนุ่มสบายแล้วก็จะมีโซนนั่งเล่นที่เป็นโซฟา และที่นั่งแบบตั่งสไตล์โบราณพร้อมกับหมอนอิงลายไทยๆ มีทีวีจอแบนขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน สิ่งที่เราชอบคือผลิตภัณฑ์ amenities กลิ่นหอมๆ ในห้องน้ำ และประตูบานเลื่อนที่ช่วยเซฟพื้นที่ไปได้อีก แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจจุดเล็กๆ ขณะที่มุมโปรดของเราคือสระว่ายน้ำในรีสอร์ทที่มีให้เลือกถึง 3 สระ ได้แก่ Water Court บรรยากาศสงบเงียบ เหมาะไปนอนอ่านหนังสือ นั่งชิล, สระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ Infinity pool เหมาะจะไปอาบแดดและชมวิวทะเล และสระ Lagoon Pool ที่อยู่ในโซน Kid’s club เหมาะสำหรับเด็กๆ และครอบครัว

ความผ่อนคลายเหนือระดับ จัดเต็มทั้งบ่อออนเซน ห้องซาวน่า สปาปัญญ์ปุริ และสระว่ายน้ำถึง 3 สระ

จากสระว่ายน้ำ เราเดินมายังบ่อออนเซนและห้องอบซาวน่าและอบไอน้ำ แบบแยกห้องชาย-หญิง มีห้องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ พร้อมอุปกรณ์ดูแลตัวเองครบครัน รวมถึงล็อกเกอร์เก็บของ แขกที่มาพักรีสอร์ทสามารถจะมาใช้บริการเมื่อไรและกี่ครั้งก็ได้ เราว่าตรงนี้ก็คุ้มมากๆ เลย

หรือใครอยากไปลองสัมผัสประสบการณ์ทรีตเมนต์ของปัญญ์ปุริ สปา ที่นั่นก็การันตีได้ในความเป็นเลิศของโปรแกรมบำบัดและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกของเขาอยู่แล้ว เอาเป็นว่าแค่นี้ก็สามารถใช้เวลาอยู่ภายในรีสอร์ทโดยไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ยังได้

ร้านอาหาร/บาร์ภายในรีสอร์ท 6 ร้าน

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือร้านอาหารและบาร์ภายในรีสอร์ทถึง 6 ร้าน ได้แก่ Wok Wok ร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ, La Cucina ห้องอาหารอิตาเลียนขนานแท้, Village Butcher ร้านสเต็กที่ปรุงเนื้อระดับพรีเมียมบนเตาถ่าน และ Fish Club ร้านอาหารทะเลสดใหม่ คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี แถมยังใช้สมุนไพรที่ปลูกในรีสอร์ทอีกด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมี Teak Lounge ที่เราไปฝึกทำค็อกเทลสนุกๆ มา และก็เรือนไทยไม้สัก 2 ชั้นที่เป็นเรือนน้ำชา เรียกได้ว่าครบทุกสไตล์และบรรยากาศที่ต้องการ

Andaz Pattaya ร้านอาหาร

ไม่น่าเชื่อว่าความรู้สึกในการมาเที่ยวพัทยาของเราจะแตกต่างไปจากเดิมขนาดนี้ Andaz Pattaya ไม่ใช่แค่ lifestyle destination แห่งใหม่ที่หรูหราและครบครันที่สร้างความผ่อนคลายได้มากกว่าที่เคยเป็น แต่เรายังสัมผัสได้ถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่สร้างความภาคภูมิใจ ซึ่งบอกเล่าผ่านประสบการณ์การเข้าพักที่นี่ในทุกรายละเอียด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมและจองที่พักได้ที่ https://www.hyatt.com/andaz

La Vie en Road Editorial Team นักเดินทางที่ชอบศิลปะและวัฒนธรรมที่แตกต่าง เก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์ที่เราพบเจอบนถนนแห่งชีวิต มาแบ่งปันกับทุกคน

Leave a Reply