Origami ที่หมายถึงศิลปะการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น ได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ‘ออริกามิ’ (Origami) ซอยสุขุมวิท 24 มาพร้อมเมนูที่ผสมผสานกับรสชาติความอร่อยของอาหารท้องถิ่นต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างน่าสนุก ใครจะไปคิดว่ามาร้านอาหารญี่ปุ่นแต่จะได้กินเมนูอย่างอุด้งข้าวซอย สลัดเทอริยากิราดน้ำส้มตำ หรือแซลมอนซาชิมิที่นำมายำกับตะไคร้ได้แซ่บถึงใจสุดๆ

เคาน์เตอร์หน้าร้าน Origami

ขอออกตัวก่อนเลยว่า สำหรับคนที่ชอบเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบ traditional หรือดั้งเดิม อาจจะรู้สึกแปลกใจกับเมนูสุดครีเอทีฟของที่นี่อยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่ชอบความหลากหลาย หรือเคยมีประสบการณ์การเดินทางมาพอสมควร เมนูของร้านออริกามิทำให้เรานึกถึงความทรงจำของทริปต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว ด้วยรสชาติแห่งวัฒนธรรมทั้งตะวันตกและตะวันออก

เริ่มตั้งแต่ทางภาคเหนือของไทย น้ำจิ้มแจ่วและส้มตำของทางอีสาน รสชาติแบบเม็กซิกัน ตะวันออกกลาง หรืออินเดีย เนื้อพรีเมียมนำเข้าจากออสเตรเลีย ไปจนถึงสไตล์การปรุงแบบอิตาเลียน หรือแม้แต่เมนูคุ้นเคยของคนไทยอย่างผัดกะเพรา เขาก็สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเมนูอาหารญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว

ส่วนความเป็นญี่ปุ่นที่แค่ได้ยินก็น้ำลายสอ ก็อย่างเช่น ซาชิมิ ไข่ออนเซน หมูชาชู ไก่เทอริยากิ การย่างแบบเทปันยากิ รวมถึงวัตถุดิบญี่ปุ่นอย่างปลาแซลมอนและปลาฮามาจิ เป็นต้น

เย็นย่ำหลังเลิกงาน เราเลี้ยวรถเข้ามาในซอยสุขุมวิท 24 และจอดที่โรงแรม Staybridge Suites Bangkok พอเดินมาที่ชั้นล็อบบี้ กลิ่นหอมๆ และบรรยากาศผ่อนคลายก็ทำให้เราลืมความแออัดบนท้องถนนเมื่อก่อนหน้าไปเลย ร้าน Origami เป็นร้านเดียวที่ตั้งอยู่ในชั้นนั้น เพราะฉะนั้นหาง่ายมาก มีทั้งแขกของในโรงแรม และจากภายนอกเข้ามาทานอาหาร แอบกระซิบว่าช่วงเย็นคนก็จะเยอะกว่ามื้อเที่ยงพอสมควร แถมยังมีโซนบาร์เครื่องดื่มให้นั่งพูดคุยกับเพื่อนฝูงต่อไปได้ถึงสี่ทุ่ม

ร้าน Origami ตกแต่งในโทนสีเขียวครีม เรียบง่ายสไตล์มินิมัล ประดับตกแต่งด้วยงานพับกระดาษตามุมต่างๆ รวมไปถึงโคมไฟกระดาษแบบญี่ปุ่น ที่นั่งจะมีทั้งโซนที่รีแล็กซ์ สบายเหมือนนั่งทานข้าวที่บ้านกับครอบครัว แล้วก็โซนที่สามารถปิดเป็นไพรเวทเพื่อจัดปาร์ตี้ หรือสังสรรค์เป็นกลุ่มใหญ่ก็ได้ ขณะเดียวกันเฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายก็ให้ความรู้สึก cozy และแต่ละโต๊ะก็จะมีกระดาษรวมทั้งขั้นตอนการพับ จัดวางไว้ให้บนโต๊ะ ถ้าระหว่างรออาหารอยากจะทำ DIY เล่นๆ ก็น่ารักเลยทีเดียว เราได้ลองพับรูปแมวไปแล้วหนึ่ง แต่อาจจะดูไม่ค่อยเหมือนเท่าไร เลยขอให้พนักงานที่ร้านมาโชว์พับกระต่ายแทน

ทางร้านเล่าว่า Ori แปลว่าการพับ ส่วน gami แปลว่ากระดาษ และในกระดาษ 1 แผ่นนั้นสามารถพับออกมาได้หลายแบบตามจินตนาการ ดังนั้นการออกแบบสร้างสรรค์เมนูอาหารของร้านออริกามิจึงอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน นั่นคือ Savour the Taste of Endless Possibility หรือการครีเอตรสชาติความเป็นไปได้แบบไม่รู้จบ

นั่นคือเสน่ห์ของอาหารฟิวชั่นที่สร้างเอกลักษณ์ของรสชาติ เหมือนงานศิลปะที่เป็นการสร้างสรรค์เฉพาะตัวของคนทำ และการจับนู่นนี่มาผสมผสานกัน คนทำก็ต้องมีความรู้ว่าวัตถุดิบอะไรหรือรสชาติไหนที่มาอยู่ด้วยกันแล้วจะส่งเสริมกัน รวมถึงเทคนิคการปรุงที่เมื่อพลิกแพลงแล้วจะไม่ทำลายอรรถรสเดิม แต่สร้างรสชาติใหม่ๆ ที่น่าสนใจ แถมเป็นรสชาติที่ไม่สามารถไปหาที่อื่นแบบเดียวกันได้อีก

เมนูฟิวชั่นสุดครีเอทีฟ Origami restaurant

เราสั่ง Salmon Lover Set มาเสิร์ฟก่อนเลย เหมาะมากสำหรับคนรักแซลมอน เพราะเขารวมไว้ทั้งแซลมอนซาชิมิ แซลมอนอะบุริ แซลมอนโรล แซลมอนยำตะไคร้ เสิร์ฟพร้อมข้าวและสาหร่าย จะเลือกทานเป็นเครื่องเคียง หรือจะทานแซลมอนล้วนๆ ก็แล้วแต่ความชอบ

Salmon Lover Set

ด้วยความที่อยากกินผัก ก็เลยสั่งสลัดมาด้วย แต่ว่า Grilled Ginger Chicken Teriyaki with Asian Coleslaw, Somtum Dressing จานนี้พิเศษตรงที่เป็นการผสมผสานผักสลัดต่างๆ มากับไก่เทอริยากิ ราดด้วยน้ำส้มตำ ทำให้เป็นจานสลัดที่มีสีสันขึ้นเยอะ รสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ดลงตัว แต่ไม่เผ็ดเกินไป ในระดับที่ถ้าเราทานได้ ทุกคนก็ทานได้แน่นอน

Grilled Ginger Chicken Teriyaki with Asian Coleslaw, Somtum Dressing

ส่วนจานหลัก ขอเลือก Shrimp Paste Fried Rice with Garlic Shrimp เพราะปกติชอบทานข้าวผัดมันกุ้งอยู่แล้ว แต่นี่เขาใช้ข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่มมาผัดกับมันกุ้งหอมๆ แถมยังเสิร์ฟมาพร้อมกุ้งย่างราดน้ำจิ้มซีฟู้ด คนชอบกุ้งคือฟินสุดๆ ต่อด้วย Linguine Truffle with Wagyu Beef Tataki เขาย่างเนื้อแบบทาทากิราดบนเส้นลิงกวินี ผัดกับเห็ดทรัฟเฟิล อันนี้ก็ได้ฟีลทานอาหารญี่ปุ่นและอิตาเลียนในเวลาเดียวกัน

แต่สำหรับจานเนื้อที่เราแนะนำอย่างยิ่ง คือ Hibashi Style Rib Eye Steak with Primary Mustard เป็นเนื้อที่นุ่มลิ้นละลายในปากมากๆ เลย เพราะเขาคัดสรรเนื้ออย่างดี นำเข้าจากออสเตรเลีย นำมาหั่นเต๋าและย่างแบบเทปันยากิ นอกจากนี้ก็ยังมีปลาบัตเตอร์ฟิชอีกจานที่เราชอบมากและถือว่าเป็น top dish ของมื้อนี้เช่นกัน

Hibashi Style Rib Eye Steak with Primary Mustard

ขณะที่ Sake Teriyaki Butter Fish with Lentils เป็นการหมักปลาด้วยซอสสูตรพิเศษจากเชฟ เสิร์ฟพร้อมถั่วเลนทิล ที่มีต้นกำเนิดจากอินเดียแต่นิยมใช้ในการประกอบอาหารของยุโรปและตะวันออกกลาง ก่อนจะปิดท้ายด้วยของหวานเป็นชีสเค้กชาเขียวไส้ถั่วแดง มีความเนียนนุ่มละลายในปาก รสชาติอมเปรี้ยวหน่อยๆ แต่ก็ตัดด้วยความขมเล็กน้อยของรสชาเขียวเข้มข้น ทานแล้วอารมณ์ดีไปเลย

Sake Teriyaki Butter Fish with Lentils

สำหรับเครื่องดื่มมีให้เลือกทั้งลิ้นจี่โซดา เหมาะกับช่วงอากาศร้อน, Natsu Mango ม็อกเทลที่ให้รสชาติของ tropical fruit และเติมกลิ่นเครื่องเทศนิดหน่อย, Wabi Yuzu เพิ่มความหอมด้วยน้ำสับปะรด และมีเท็กซ์เจอร์เฉพาะตัว on top ด้วย Yuzu foam, Hana Yoru ค็อกเทลที่ได้ความหอมของดอกซากุระและความหอมของดอกมะลิ ละมุนมาก

เราว่าใครที่ชอบอาหารฟิวชั่นน่าจะถูกใจที่นี่เลยล่ะ เพราะแม้จะมีพื้นฐานของการออกแบบเมนูเป็นอาหารญี่ปุ่น แต่เขาสามารถนำไปผสมผสานกับอาหารอีกหลากหลายวัฒนธรรม รวมถึงความเก่าความใหม่ มาอยู่ในจานเดียวกัน ช่วยเติมสีสันและชวนให้เราคิดถึงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในความทรงจำได้อีกด้วย

ชีสเค้กชาเขียวไส้ถั่วแดง

Origami Restaurant

ชั้น L โรงแรม Staybridge Suites Bangkok ซอยสุขุมวิท 24

โทร 094-618-0777

เปิดทุกวัน 12.00-22.00น.

ดูเพิ่มเติม https://origamirestaurant.co/

Leave a Reply