Portofino (ปอร์โตฟิโน) คือเมืองในฝันของใครหลายคน เมืองท่าริมชายฝั่งลิกูเรียของอิตาลีที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ภาพจำที่เป็นเอกลักษณ์ก็คืออาคารบ้านเรือนสีสันสดใสปลูกไล่เรียงกันบนเนินเขา และมีเรือยอชท์หลายลำจอดเรียงรายอยู่ริมอ่าว
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/Portofino-เที่ยว.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
เหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลกชอบมาพักผ่อนที่นี่ตั้งแต่ในอดีตแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Elizabeth Taylor, Richard Burton, Kylie Minogue และล่าสุดก่อนที่เราจะไปเยือนได้สัปดาห์เดียว ก็เพิ่งมีการฉลองงานแต่งงานครั้งที่ 3 ของ Kourtney Kardashian และ Travis Barker ที่ Villa Olivetta พร็อพเพอร์ตี้ของ Domenico Dolce และ Stefano Gabbana
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4126_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/01879DE9-7A06-4F33-AC59-42332E608E73_480x600.jpg?resize=480%2C600&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/B98B947B-3A72-4707-BB86-3C274793D34A_480x600.jpg?resize=480%2C600&ssl=1)
จากตอนที่แล้ว ที่เราใช้เมืองเจนัวเป็นฐานที่พัก อันที่จริงมันก็มีเมืองริมทะเลใกล้ๆ เจนัวที่เป็นเมืองชาวประมงสวยๆ เต็มไปหมด อย่างเช่น Boccadasse หรือ Nervi ที่เราสามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสไปก็ได้ แต่ถ้าจะเอาวิวแบบจัดเต็ม ก็ควรจะจัดเดย์ทริปมาเที่ยว Portofino และ Cinque Terre สักวันสองวันเป็นอย่างน้อย
การเดินทางจากเจนัว (Genoa) มาที่ปอร์โตฟิโน สามารถทำได้ทั้งโดยรถไฟและล่องเรือ (ล่องเรือจะราคาเที่ยวละประมาณ 6-10 euros และใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/S-Magherita-Portofino.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
แต่สำหรับเราเลือกการเดินทางโดยรถไฟ จาก Genova Brignole ไปลงที่สถานีรถไฟที่ใกล้ Portofino ที่สุดก็คือ Santa Margherita Ligure-Portofino ราคาตั๋วรถไฟ 3.9 euros ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วต่อรถบัส (จอดรออยู่แถวหน้าสถานีรถไฟเลย) ไปลงสุดสายที่ Portofino ราคาตั๋วเที่ยวละ 3 euros ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซื้อตั๋วรถบัสได้ที่ร้านขายบุหรี่แถวนั้น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1549_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4161_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
ตั๋วรถไฟไป Portofino ซื้อได้ที่ www.thetrainline.com หรือ www.trenitalia.com
หาดแถวๆ Santa Margherita ก็สวยไม่แพ้กัน เราแนะนำให้ใช้เวลาอยู่แถวนี้ก่อนสักพัก เพราะมีร้านอาหารและคาเฟ่ดีๆ เยอะมากด้วย และถ้าใครไม่อยากนั่งรถบัสไปปอร์โตฟิโน ก็สามารถขึ้นเฟอร์รี่จากท่าเรือที่ Santa Margherita Ligure-Portofino ซึ่งก็จะได้ฟีลเก๋ๆ ไปอีกแบบ
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1470_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4158_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4073_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4079_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4087_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4097_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4156_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
I found my love in Portofino
ปอร์โตฟิโนเป็นเมืองเล็กๆ มีคนอยู่อาศัยแค่ราวๆ 500 คนเท่านั้น แต่ตามเนินเขาจะมีวิลล่าหรูสุดไพรเวทแอบซ่อนอยู่มากมาย มันเป็นเมืองตากอากาศที่เหมาะมาพักผ่อนหย่อนใจ มาเล่นน้ำทะเล มากินอาหารและพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงในวันหยุด ในขณะที่นักท่องเที่ยวก็สามารถมาเดินชมวิว ชมบรรยากาศ แล้วก็ชิมอาหาร จิบไวน์ มันอาจจะราคาแพงสักหน่อย แต่ถ้านึกภาพเล่นๆ ว่าเราได้ลองมาพักผ่อนสไตล์เซเลบสักวันสองวัน มันก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกดี
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1511_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายเจลาโต้ ช็อปแบรนด์เนม LV, Gucci, Hermes, Dior, Dolce & Gabbana มาหมด แล้วก็ร้านขายของที่ระลึก ขายงานฝีมือ ภาพวาด โปสการ์ด รวมทั้งไวน์ท้องถิ่น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1545_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1524_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1518_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1521_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
จากท่าเรือ Portofino มองขึ้นไปยังเนินเขา จะเห็นป้อมปราการโดดเด่น ที่นั่นคือ Castello Brown เคยเป็นป้อมที่ใช้สำหรับการป้องกันทางทหารตั้งแต่สมัยโรมัน ปัจจุบันทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เราสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวได้ เปิดทุกวัน 10.00-19.00น. ค่าเข้าชม 5 euros ระหว่างทางจะผ่านต้นไม้ดอกไม้สวยๆ มากมาย และยังมองลงมาเห็นวิวปอร์โตฟิโนจากมุมสูง มันฟินจนรู้สึกว่านี่แหละคือความรู้สึก I found my love in Portofino
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1476_800x450-rotated.jpg?resize=450%2C800&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1478_800x450-rotated.jpg?resize=450%2C800&ssl=1)
จากสถานีรถไฟ Santa Margherita Ligure-Portofino ไปยังสถานี Monterosso ใช้เวลา 40 นาที ราคาตั๋ว 8.30 euros
La Dolce Vita ที่หมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลก Cinque Terre
หมู่บ้านชาวประมง 5 หมู่บ้านที่เรียกรวมกันว่า ชิงเกว เตเร่ ซึ่งแปลว่า 5 แผ่นดิน ได้แก่ Monterosso, Vernazza, Corniglia, Manarola และ Riomaggiore มันคือฉากในหนังการ์ตูนเรื่อง Luca แล้วก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่เขาจะเลือกพักในเมืองเจนัว หรือไม่ก็ที่เมือง La Spezia แล้วมาพักผ่อนที่นี่แบบเดย์ทริป
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/Monterosso.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
ถ้าปอร์โตฟิโนคือความหรูหรา ชิงเกว เตเร่ ก็คือความชิลแบบที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลเหมือนกันแล้วก็อยู่ไม่ไกลจากกันแต่ฟีลลิ่งต่างกันไปเลย ช่วงที่เราไปคือช่วงเพิ่งจะเริ่มต้นฤดูร้อน นักท่องเที่ยวก็เยอะมากๆ แล้ว คิดว่าถ้าช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม ที่เป็นช่วงวันหยุดของชาวยุโรป ที่นี่จะต้องเนืองแน่นไปด้วยผู้คนจนแทบจะไม่มีที่นั่งว่างบนหาดเลยก็ว่าได้ สำหรับนักท่องเที่ยวเอเชีย แนะนำให้มาเที่ยวได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน หรือไม่ก็กันยายนถึงตุลาคม เพื่อจะได้เลี่ยงความแออัด
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1557_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1551_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
Cinque Terre ไม่มีช็อปแบรนด์เนม ไม่มีตึกอาคารที่หรูหรา มีแต่บ้านเรือนแล้วก็ร้านค้าของคนท้องถิ่น ผู้คนชอบมานอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล พายเรือ หรือแม้กระทั่ง hiking ถ้ามาจากเมืองเจนัวก็ให้เริ่มเที่ยวจาก Monterosso al Mare ก่อน แต่ถ้ามาจาก La Spezia ก็ให้เริ่มจาก Riomaggiore ทุกหมู่บ้านจะเชื่อมกันด้วยท่าเรือและรถไฟที่ตัดผ่านลอดอุโมงค์ภูเขา เวลานั่งรถไฟเลียบไปกับทะเลลิกูเรียแห่งนี้ จะได้เห็นวิวที่สวยงามไม่แพ้การล่องเรือเลย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/DSCF1561_800x450.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
Monterrosso al Mare (มอนเตรอสโซ อัล มาเร่) มีหาดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 5 หมู่บ้าน ชายหาดเขาเป็นหินและน้ำทะเลก็สีเทอร์ควอยซ์อย่างที่เขาร่ำลือ ใสสะอาดมากๆ ยิ่งเมื่อมองสีของน้ำทะเลที่ตัดกับสีสดๆ ของบ้านเรือนที่ลดหลั่นกันอยู่บนหน้าผาแล้ว จะยิ่งรู้สึกถึงความสวยงามสะดุดตา เราไปนอนเล่นอยู่ที่ Fegina Beach ซึ่งเป็นหาดที่มีความยาวมากๆ ในวันที่แดดแรงเขาจะมีร่มสีสดๆ มากาง แล้วก็มีคนมานอนอาบแดดกันเต็มไปหมดเลย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4184_800x600-rotated.jpg?resize=600%2C800&ssl=1)
สำหรับ Corniglia (คอร์นิเลีย) เป็นหมู่บ้านเดียวที่ไม่ได้ติดทะเล เพราะตั้งอยู่บนหน้าผาสูงจากน้ำทะเลถึง 100 เมตร ก็จะเหมาะกับคนที่อยากดูวิวมุมสูงแบบพาโนรามา ในขณะที่ Manarola (มานาโรลา) นั้นสีสวยหวานราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย มีจุดชมวิวที่สวยมากตรงสุดปลายเนินเขา และทางเดินค่อนข้างง่าย เป็นมิตรกับขาขึ้นมานิดนึง เพราะเนินไม่สูงชันมากถ้าเทียบกับหมู่บ้านอื่นๆ โดยเฉพาะ Vernazza (เวร์นาซซา) มันจะมีบางช่วงบางตอนที่ชันมากๆ แต่ก็เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามทีเดียว จนได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่ง Cinque Terre สวยไม่แพ้ที่ Riomaggiore (ริโอมัจจอเร่) ที่แม้จะค่อนข้างเล็กจิ๋วที่สุดในบรรดา 5 หมู่บ้าน แต่เขาก็มีมุมซันเซ็ตที่ป็อปปูลาร์ของเขา เป็นจุดชมวิวเหนือสถานีรถไฟ Via dell’Amore ช่วงที่แสงอาทิตย์สีทองสาดมากระทบสีของบ้านเรือนหลากสีนั่น ทำเอาแทบลืมหายใจ
และนี่คือเสน่ห์ของอิตาเลียน ริเวียร่า ในช่วงต้นฤดูร้อน ที่ทำให้เราเข้าใจความหมายของคำว่า La Dolce Vita ที่แปลว่า Sweet Life ชีวิตอันแสนหวาน หรือชีวิตชิลๆ ที่ไม่เร่งรีบ มันคืออารมณ์นั้นเลย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4174_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2022/07/IMG_4198_450x600.jpg?resize=450%2C600&ssl=1)
Travel Tips
นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเดินทางใน Cinque Terre แบบรายเที่ยว หรือหากต้องการเที่ยวมากกว่า 3 หมู่บ้าน แนะนำให้ซื้อบัตร Cinque Terre Card Treno เป็นตั๋ววัน ราคา 16 ยูโร ก็จะสามารถขึ้นรถไฟระหว่างหมู่บ้านได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและใช้เป็นบัตรผ่านทางไปยังจุดชมวิวสำคัญๆ ได้ หรือแม้แต่ใช้เข้าห้องน้ำแบบเก็บเงินได้ฟรี บัตรจำหน่ายที่เจ้าหน้าที่จุดขายเท่านั้น ไม่มีขายตามตู้อัตโนมัติ แต่ละหมู่บ้านใช้เวลาเดินทางระหว่างกันโดยรถไฟเพียง 5 นาที
อ่านที่เที่ยวอิตาลีเพิ่มเติม
[…] Portofino, Cinque Terre เที่ยวอิตาเลียนริเวียร่า ค… […]
[…] จุดที่โด่งดังก็คือ ชิงเกว เตเร่ (Cinque Terre) หรือ 5 […]