เนื่องด้วยจากการที่มีไมล์ ROP เหลือ บวกกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุกวันแบบไม่เกรงใจใคร เราเลยคิดว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวเมืองนอกค่ะ ครั้งนี้เราเลือกเดินทางไปประเทศใกล้ๆ อย่างมาเลเซีย ที่เมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์เนี่ยผู้คนมักจะนึกถึงแต่ตึกแฝดปิโตรนาสกับห้างให้เดินวนไปวนมาอยู่แค่นั้น แต่ที่จริงแล้วกัวลาลัมเปอร์ก็มีย่านเก่าหรือย่านประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์แทรกตัวอยู่เช่นกัน

The Chow Kit Hotel (Photo credit: Ormond Group)

สำหรับ smart traveler อย่างเรา เวลาไปเที่ยวใกล้ๆ แค่ไม่กี่วัน เราไม่พกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปให้เกะกะหรอกค่ะ เราจะถือแบบ cabin size ไปเลย ซึ่งสามารถถือขึ้นเครื่องได้ และเมื่อเราไม่ต้องโหลดกระเป๋าแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อแถวเช็คอินให้เสียเวลา เราทำการเช็คอินออนไลน์ในแอพฯของ Traveloka ได้เลย เพราะสามารถใช้ได้กับสายการบินไทย/ไทยสมายล์/ไทยไลอ้อนแอร์และการูด้าแอร์ไลน์ ข้อดีคือทำให้เรามีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่อง เดินทางได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้น เพราะมาถึงสนามบินแล้วก็เดินเข้าตม. ผ่านไปนั่งรอสวยๆ หน้าเกทได้เลย

วิธีการทำเช็คอินออนไลน์ง่ายๆ ในแอพฯ Traveloka

ตอนนี้ Online Check-in เปิดให้บริการแล้วในแอพฯ Traveloka หรือ https://www.traveloka.com/th-th/checkin เช็คอินกับ Traveloka ก่อนเดินทาง มีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่องได้อีก

เช็คราคาจองตั๋วเครื่องบินไปมาเลเซียได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-malaysia

ชาว คิต (Chow Kit) เป็นย่านใจกลางเมืองที่คึกคักไปด้วยผู้คนตลอดเวลา เพราะมีตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในกัวลาลัมเปอร์ ชื่อว่าตลาดชาว คิต มีของกินทุกอย่างเท่าที่เราจะนึกออก ถ้าอยากรู้ว่าชาวมาเลย์เขากินอะไร ให้มาเดินที่นี่ จะเห็นผลไม้เมืองร้อนแทบทุกชนิด ผัก และเนื้อสัตว์ ทุกอย่างในราคาที่ถูกมาก เราจะไม่เพียงแค่ได้สำรวจอาหาร แต่เราได้สำรวจวิถีความเป็นอยู่ของชาวมาเลย์ไปด้วย

ภายในห้องพักของ The Chow Kit Hotel (Photo credit: Ormond Group)
(Photo credit: Ormond Group)

ความเก๋คือเพิ่งมีโรงแรมเปิดใหม่ในย่านนี้ ตั้งชื่อตามโลเกชั่นเลย นั่นก็คือ The Chow Kit Hotel บูติกโฮเต็ลแห่งแรกในเครือ Ormond Hotels ซึ่งนำบรรยากาศของถนนและบาร์ยามค่ำคืนในย่านชาว คิตช่วงยุค 1970s-1980s มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ผสมผสานระหว่างประเพณีดั้งเดิมเข้ากับโมเดิร์นดีไซน์ เอาใจนักเดินทางสายครีเอทีฟที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของมาเลย์ แต่ขณะเดียวกันก็ชื่นชอบลักชัวรี่สไตล์ที่ไม่ฟุ้งเฟ้อจนเกินไป

ห้องอาหารภายในโรงแรม (Photo credit: Ormond Group)

Ormond Hotels ตีความคำว่าลักชัวรี่สำหรับนักเดินทางรุ่นใหม่ว่าเป็นการใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย รู้ในความต้องการของตัวเอง และมีความบาลานซ์ ที่นี่จึงมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวย ตัดความฟุ้งเฟ้อออกไปและโฟกัสในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เดินเข้ามาแล้วต้องว้าว ตั้งแต่ล็อบบี้ ร้านอาหาร ห้องสมุด ไปจนถึงภายในห้องพักซึ่งมีอยู่กว่า 113 ห้อง ทุกห้องมีบรรยากาศที่อบอุ่น เงียบสงบ และผ่อนคลาย เราพิสูจน์มาแล้วกับความนุ่มสบายของเตียงและหมอน มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทันสมัยมากมาย

(Photo credit: Ormond Group)

เขาเบลนด์ความเป็นเมืองในอารมณ์แบบสบายๆ เรารู้สึกว่าบรรยากาศเหมือนบ้านมากกว่าเป็นโรงแรม ด้วยความที่มันไม่ได้ใหญ่มาก และพนักงานก็เป็นกันเอง พร้อมให้ความช่วยเหลือเราทุกอย่าง สิ่งที่เราชอบมากเลยก็คือเขามีคลาสโยคะและคลาสนั่งสมาธิบนชั้นรูฟท็อปด้วย เราได้เจอนักเดินทางสไตล์เดียวกัน เจอกันในคลาสโยคะนั่นแหละ แล้วก็กลายเป็นเพื่อนกัน หลังจบคลาสก็ชี้ชวนกันลงมานั่งดริงค์ด้วยกันที่ห้องอาหารด้านล่าง ห้องอาหารที่ทางโรงแรมภูมิใจนำเสนอมาก เพราะเขาดีไซน์มาแบบโกปีเตี๊ยม หรือคาเฟ่สไตล์มาเลย์สมัยก่อนที่ผู้คนมักจะมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์หรือว่าพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการเมืองกัน ตอนนี้เราไม่ได้คุยเรื่องการเมืองเท่าไร ออกจะเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่า แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เลย

(Photo credit: Ormond Group)

ห้องอาหารชั้น G แห่งนี้ เป็นที่ฝากท้องตั้งแต่มื้อเช้าถึงมื้อเย็น และยังมีส่วนที่เป็นบาร์ซึ่งมีซิกเนเจอร์ค็อกเทล สร้างสรรค์โดยมิกโซโลจิสต์รับเชิญจากทั่วโลก ผลัดเปลี่ยนกันมาสร้างรสชาติแปลกใหม่ เปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน เรียกว่าเดินเข้าโรงแรมมาเมื่อไรก็ไม่ต้องกลัวเหงา จะเห็นผู้คนนั่งดื่มนั่งคุยกันอยู่ตลอด

(Photo credit: Ormond Group)

เราไม่แปลกใจเมื่อรู้ว่าทั้งสถาปัตยกรรมภายนอกและการออกแบบตกแต่งภายในของที่นี่ เป็นผลงานของ Studio Tack บริษัทออกแบบจากบรู๊คลิน นิวยอร์ก เพราะมันมีความเนี้ยบ ความเท่ในแบบตะวันตกผสมอยู่ด้วย แต่ที่ต้องชมเลยก็คือ มันเป็นโปรเจ็กต์ในเอเชียครั้งแรกของทีมนี้ แต่พวกเขาก็ทำออกมาได้ลงตัวมากๆ ที่สำคัญยังมีการเลือกงานศิลปะมาติดตั้งหมุนเวียนอยู่เสมอทั้งในพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมและในห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นงานจากไพรเวทคอลเลกชั่น งานของศิลปินมาเลย์เอง หรืองานของศิลปินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

(Photo credit: Ormond Group)

เมื่อได้มาพักที่นี่แล้วอย่าลืมออกไปสำรวจย่านชาว คิต และถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ทางโรงแรมก็มีทัวร์พากิน พาสำรวจทางวัฒนธรรมแบบคนโลคอล รับรองว่าสนุกมากๆ เราจะได้เห็นกัวลาลัมเปอร์ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน อ้อ! แต่ถ้ายังอยากไปเซลฟี่กับตึกปิโตรนาสอยู่ ก็นั่งรถไปจากที่นี่ได้แค่ไม่เกินสิบนาทีก็ถึงแล้ว

The Chow Kit Hotel

https://www.thechowkit.com/

นักเขียน/นักดนตรี ที่นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป