การมา staycation 2 วัน 1 คืนครั้งนี้ เราอยู่กันในกรุงเทพฯ ในย่านที่คุ้นเคยอย่างทองหล่อนี่เอง นี่คือโรงแรม InterContinental Bangkok Sukhumvit ที่เพิ่งจะเปิดตัวใหม่เมื่อปลายปี 2566 ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 59 ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ
ปกติแล้ววันธรรมดา บนถนนสุขุมวิทรถจะติดหนักแค่ช่วงเย็น พอเราขับมาในช่วงกลางวัน แถมเป็นโซนที่เลยออกมาจากโซนวุ่นวายของสุขุมวิทด้วยแล้ว การจราจรก็คล่องตัวขึ้นมาพอสมควร และทางโรงแรมก็มีระบบจอดรถแบบ auto parking ไว้ให้ สำหรับมือใหม่หรือคนที่ของเยอะอาจจะรู้สึกลำบากนิดหน่อย แต่สำหรับเรา พนักงานเข้ามาช่วยจัดการหยิบสัมภาระและดูแลเรื่องการจอดรถให้ ก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบาย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/InterContinental-Bangkok-Sukhumvit-–-Lobby-03_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
สิ่งแรกที่ประทับใจเมื่อเดินเข้าไปล็อบบี้คือการตกแต่งที่สวยหรูดูแพงแต่ก็รู้สึกผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าคอนเซ็ปต์การออกแบบของโรงแรมอินเตอร์คอนฯแต่ละที่ เขาจะดึงเอาเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ ออกมานำเสนอในแบบร่วมสมัย อย่าง InterContinental Bangkok Sukhumvit ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งมีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก และเป็นย่านฮิปเต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดังมากมาย การตกแต่งจึงผสมผสานทั้งความเป็นไทย และเสริมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นนิดๆ
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5347_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ความเป็นไทยที่ว่านี้ เขามีการนำวัฒนธรรมของช่าง 10 หมู่มาประยุกต์ โดยเฉพาะศิลปะการทอผ้า เช่น ลายผ้าดอกจิก เส้นด้าย และกระสวย ซึ่งเราจะเห็นได้ทุกที่ไม่ว่าจะล็อบบี้หรือในห้องพัก เมื่อบวกกับเส้นสายบนพื้น และสีของเฟอร์นิเจอร์ ก็ยิ่งให้ความรู้สึกหรูหราแต่อบอุ่น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5345_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5370_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5346_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
การเข้าพักครั้งนี้เราได้ club lounge access ด้วย ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก IHG One Rewards ของเครือโรงแรม IHG พนักงานจึงพาเราขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 31 เพื่อเช็คอินแบบไพรเวทใน Club InterContinental ซึ่งเงียบสงบกว่า มีความเป็นส่วนตัว และยังมีเวลคัมดริงค์ให้เลือกหลากหลาย จะเป็นชา กาแฟ หรือจะเป็นแชมเปญ ไวน์ก็ยังได้
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5360_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/IMG_6314_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
สำหรับแขกคนพิเศษของ Club InterContinental ทางโรงแรมนำเสนอเซ็ตน้ำชายามบ่ายพร้อมของว่างให้ด้วย ก่อนจะต่อด้วย Evening cocktails ให้เราเอนจอยเครื่องดื่มเคล้าบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตก โดยเขาภูมิใจนำเสนอ Thonglor Sunrise และ Thonglor Sundown ซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะสำหรับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท เท่านั้น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5377_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5372_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5371_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5373_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5374_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ห้องพักของ InterContinental Bangkok Sukhumvit มีทั้งหมด 241 ห้อง แบ่งเป็นห้องสวีทไปจนถึงห้อง Presidential Suite ที่มีพื้นที่ใหญ่สุดถึง 200 ตารางเมตร สำหรับห้องพักของเราอยู่ที่ชั้น 16 ก็ถือว่าสูงแบบที่เอนจอยวิวเมืองกรุงเทพฯได้กว้างมาก เห็นตึกเยอะแยะผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่สูงตั้งแต่เพดานจรดพื้น โดยเฉพาะตึก T One Building ที่มีบาร์เก๋อย่าง Tichuca อยู่ด้านบน
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/InterContinental-Bangkok-Sukhumvit-–-Junior-suite-–-Living-room_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ในห้องพักตกแต่งด้วยผ้าเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่ผนัง ที่หัวเตียง หรือพรมที่พื้น นอกจากจะดูเรียบหรูแล้ว มันยังช่วยในเรื่องการเก็บเสียง ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรบกวนทั้งจากห้องข้างๆ หรือจากภายนอกตึก ทั้งที่มันตั้งอยู่ริมถนน แถมติดกับรางรถไฟฟ้าด้วย เชื่อว่าหลายคนที่มีคอนโดริมถนนหรือเคยไปพักโรงแรมติดถนนบางแห่งที่ใช้วัสดุธรรมดาทั่วไป จะเจอปัญหาการนอนไม่หลับและเสียงรบกวนเป็นประจำ จุดนี้เลยเป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ พอทิ้งตัวลงเตียงคิงไซส์ที่นุ่มสบายแบบดูดวิญญาณด้วยแล้ว ยิ่งหลับสนิทฝันดีไปเลย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/InterContinental-Bangkok-Sukhumvit-–-Premium-room-–-Bedroom-03_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
เขามี free mini-bar ให้เราไม่อั้น มีโต๊ะให้นั่งทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นมุมนั่งทานอาหารก็ได้ มีโซฟาให้เอนหลัง และทีวีจอใหญ่ และที่สำคัญห้องน้ำกว้างมาก มาพร้อม amenities แบรนด์หรูจากยุโรป ไบรีโด (Byredo) ตามมาตรฐานของโรงแรม InterContinental และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/InterContinental-Bangkok-Sukhumvit-–-Junior-suite-–-Bathroom_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
เมื่อถึงเวลาดินเนอร์ เราไปที่ห้องอาหาร เอวา บราสเซอรี (AVA Brasserie) ที่ชั้น 4 ของโรงแรม ซึ่งเป็นแบบ all day dining เขาตกแต่งน่ารักด้วยโทนสีแบบละมุนๆ ยิ่งได้รู้ที่มาของชื่อร้านยิ่งเพิ่มความน่ารักขึ้นไปอีก เพราะคำว่า AVA มาจาก Aviation หมายถึงการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะคอนเซ็ปต์ของห้องอาหารแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากสายการบินในตำนานอย่าง Pan Am
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5379_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5383_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ผู้อยู่เบื้องหลังเมนูอาหารของ AVA Brasserie คือ เชฟโรแบร์โต แบลลิตติ (Roberto Bellitti) ผสมผสานรสชาติอาหารแบบอิตาเลียนต้นตำรับ กับประสบการณ์การเดินทางไปยังมุมต่างๆ ของโลก เช่น ฟิชแอนด์ชิปส์จากลอนดอน ชิชารอนจากไมอามี่ สเต็กสไตล์นิวยอร์ก ข้าวซอยปูนิ่มจากกรุงเทพฯ เป็นต้น ก่อนจะปิดท้ายด้วยของหวานอย่างมูสข้าวเหนียวมะม่วง อีตันเมสพาร์เฟต์เสิร์ฟพร้อมเบอร์รี่สด และชีสเค้กยูซุ ร้านเปิดตั้งแต่ 06:00 – 22:00 น.
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5384_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5385_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
ช่วงค่ำเราไปต่อกันที่ Rogues bar ชั้น 2 สปีกอีซี่บาร์เคล้าเสียงดนตรีแจ๊ซ ในบรรยากาศสลัวๆ แต่ดูมีเสน่ห์ลึกลับ เสริมความคลาสสิกด้วยลำโพงวินเทจและเปียโน พร้อมเสิร์ฟค็อกเทลที่น่าสนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Salute to the world ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปาร์ตี้สุดอลังการในแบบฉบับของเจ้าพ่อสายปาร์ตี้อย่าง Jay Gatsby แต่ที่เราชอบชื่อมากๆ เลยก็คือ I’m in the mood for love รวมไปถึง Thonglor dessert ที่ผสานกลิ่นอายของย่านทองหล่อลงไปด้วย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/IMG_6434_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/IMG_6454_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/IMG_6469_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
เช้าวันรุ่งขึ้น สำหรับแขก VIP สามารถเลือกได้ว่าจะไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร AVA Brasserie หรือที่ Club InterContinental ซึ่งเราอยากจะรับแสงธรรมชาติในตอนเช้าและเอนจอยวิวเมือง เราก็เลยเลือกมาที่ Club InterContinental เขามีขนมปังให้เลือกเยอะมาก และยังสามารถสั่งเพิ่มเติมจากเมนูได้ด้วย
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5402_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/IMG_6495_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
นอกจากเมนูพื้นฐานอย่างไส้กรอก แฮม เบคอน แพนเค้ก และโยเกิร์ตแล้ว แนะนำให้ลองเมนูไข่ที่เขามีหลากหลายแบบตามสไตล์เมนูไข่ที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม อย่าง shakshuka ชักชูกาหรือไข่กระทะของอิสราเอล หรือแม้แต่ไข่เจียวปูแบบไทยๆ ไข่ตุ๋นแบบญี่ปุ่น เป็นต้น
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5400_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/DSCF5401_800x533.jpg?resize=640%2C426&ssl=1)
จากนั้นเราแนะนำให้ทุกคนขึ้นไปที่สระว่ายน้ำซึ่งแม้จะเป็นอินดอร์ แต่ลมพัดโปร่งโล่งสบาย แถมได้เห็นวิวของกรุงเทพฯ ในมุมกว้าง เหมาะกับการขึ้นมาในช่วงเช้าหรือพระอาทิตย์ตก และใกล้ๆ กันก็ยังมีฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง THE SPA by HARNN สปาที่ได้แรงบันดาลใจจากการผสมผสานอันงดงามระหว่างประเพณีญี่ปุ่นและไทย ด้วยสปาทรีตเมนต์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งพฤกษศาสตร์ของธรรมชาติ
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/InterContinental-Bangkok-Sukhumvit-–-Infinity-pool_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.lavieenroad.com/wp-content/uploads/2024/04/InterContinental-Bangkok-Sukhumvit-–-Fitness-Centre-02_800x600.jpg?resize=640%2C480&ssl=1)
นับว่าเป็นการมาพักผ่อนที่สบายและครบครันสมมาตรฐานของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ยิ่งการจองพักแบบรวม club lounge access มาด้วยนั้น เราว่าคุ้มมากๆ ครั้งหน้าที่เราอยากจะ staycation แบบไม่ต้องเดินทางไปไหน อินเตอร์คอนฯคือตัวเลือกที่เราจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เลย
ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.intercontinental.com/bkksukhumvit