ฮอยอันเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมืองเล็กน่ารักที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสีเหลืองมัสตาร์ดนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทูโบน (Thu Bon) เมื่อก่อนเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงยังเห็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์อยู่เต็มไปหมด แต่เสน่ห์ที่มากขึ้นก็คือเมื่อมันผสมผสานกับความร่วมสมัย โดยเฉพาะในช่วงที่การท่องเที่ยวเวียดนามเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมากนี้


เราเคยเดินทางมาเที่ยวฮอยอันแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็รู้สึกติดใจในบรรยากาศคลาสสิก มันมีความชิลเวลาเดินอยู่ที่นี่ เหมือนทุกอย่างช้าลง เรายังเห็นวัฒนธรรมกาแฟ หลายร้านวางโต๊ะนอกร้านแล้วหันออกถนน ฟีลคล้ายๆ ที่ปารีส นักท่องเที่ยวทั้งตะวันตกและเอเชียมานั่งปะปนกัน ขณะที่รถ Cyclo หรือรถสามล้อพาคนลัดเลาะไปตามซอกเล็กซอกน้อย ผ่านร้านโปสการ์ด ร้านหนังสือเก่า ร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกแบบแฮนด์เมด นี่แหละทำให้เราเดินเล่นได้ไม่มีเบื่อ



ในฮอยอันมีรีสอร์ตเปิดใหม่หลายที่เลยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าในเขตเมืองเก่า (Hoi An Ancient Town) อาจจะไม่ค่อยมีพื้นที่มากแล้ว เราจึงพบว่ารีสอร์ตหรูหลายๆ แห่ง จะเขยิบออกมานอกตัวเมืองเก่านิดหน่อย จึงมีสเปซมากขึ้นเยอะเพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก ครั้งนี้เรามาพักที่โมเดิร์นไลฟ์สไตล์รีสอร์ตที่ชื่อ Wafaifo Resort Hoi An สามารถเดินจากย่านเมืองเก่าได้เพียง 10 นาที เขาเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2024

Faifo เป็นชื่อทางประวัติศาสตร์ของฮอยอัน ส่วน Wa แปลว่าน้ำ มองจากด้านหน้าเป็นอาคารสีขาวโอ่อ่า และมีเรือใบตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ที่สนามหญ้าด้านหน้า สื่อถึงความเป็นเมืองท่าของฮอยอัน การเข้าพักที่นี่ตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ที่อยากจะใช้เวลาผ่อนคลายในโรงแรมด้วย แต่ก็ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว เพราะเขารังสรรค์มาให้เป็นมากกว่าที่พัก เรียกว่ายกกิจกรรมหลากหลายมาไว้ในนี้ จะมากับเพื่อนหรือมากับครอบครัว รับรองว่าทุกคนจะได้ทำกิจกรรมสุดโปรดของตัวเอง



วันแรกที่เรามาถึงฮอยอัน ฝนตกตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายแก่ๆ เลย ซึ่งแน่นอนว่าไม่เป็นปัญหาเพราะ Wafaifo มีทั้งสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร มีโรงหนังส่วนตัวที่สามารถให้เราจองช่วงเวลา เลือกหนังที่ชอบหรือเลือกแพ็กเกจพร้อมเสิร์ฟอาหาร ฟินกันแบบเป็นส่วนตัวไปเลย เด็กๆ สามารถไปคิดส์คลับที่มีของเล่นเพียบ ที่สำคัญของอร่อยก็ต้องมี เริ่มจากห้องอาหาร Xua & Nay (แปลว่า Before & Now) บรรยากาศกว้างขวาง เสิร์ฟทั้งอาหารตะวันตกและโลคอล สำหรับมื้อเช้าและมื้อเย็น โดยที่ใกล้ๆ ห้องอาหารนี้ยังมีแยกออกไปเป็นไพรเวตรูมสำหรับจัด bespoke menu มิกซ์อาหารได้ทุกเชื้อชาติตามต้องการเฉพาะกรุ๊ปของเราเอง หรือจะชวนกลุ่มเพื่อนฝูงไปชิมไวน์ แพริ่งกับอาหารแบบทาปาสและชีส ที่นี่ก็มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ


ในช่วงบ่ายเหมาะแก่การไปนั่งชิลที่คาเฟ่ BANG HUU ใกล้ล็อบบี้ ลองสั่งกาแฟโรบัสต้าหรืออราบิก้า มาพร้อมกับเพสทรีโฮมเมด เขาเสิร์ฟใน jewel box สุดน่ารัก หรือจะสั่งชาก็มีให้เลือกหลากหลายมาก และความสนุกคือการได้ลิ้มลองช็อกโกแลตของเวียดนาม เป็นแบรนด์ช็อกโกแลตพรีเมียมที่ใช้โกโก้ท้องถิ่นจากภูมิภาคต่างๆ ของเวียดนาม หรือใครอยากชิลกว่านั้น จะนั่งทานบริเวณสระว่ายน้ำ หรือ Swim City Café ก็ได้ บอกเลยว่าพิซซ่าที่นี่อร่อยมาก และที่เราชอบสุดๆ คือซุปปูใส่ข้าวโพด เป็นซิกเนเจอร์ของเขาเลย แต่ถ้าอยากไปเวย์อาหารเวียดนามร่วมสมัย ห้องอาหาร Coi Nguon จะพาคุณไปรู้จักอาหารเวียดนามกลางหลายเมนู




ไฮไลท์ยังไม่หมดแค่นั้น ที่ชั้น 2 ยังเป็นที่ตั้งของ Wellness centre ที่ Wafaifo เขาภูมิใจนำเสนอสุดๆ ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้วงการเวลเนสของเวียดนามพัฒนาไปไกลขึ้นมากจริงๆ หลายรีสอร์ตแข่งกันที่วิธีการใหม่ๆ และความครบวงจรในการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบทุกคนในยุคนี้มองหา อย่างที่นี่เขาก็มีสปาทรีตเมนต์ทั้งเพื่อความผ่อนคลายและเพื่อความงาม เน้นมากคือโปรแกรม anti-aging มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยมากมาย เช่น




- ห้องอินฟราเรดซาวน่า ช่วยให้ร่างกายตอบสนองได้ดีกว่าซาวน่าแบบดั้งเดิม เป็นการดีท็อกซ์ล้างพิษ ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ บรรเทาอาการปวดตามร่างกาย การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
- ใกล้ๆ กันมีห้อง Ice bath ที่ไม่ใช่การเอาน้ำแข็งมาเทใส่อ่างอย่างที่เราเคยเห็น แต่เป็นน้ำเย็นที่มีเครื่องปรับและควบคุมอุณหภูมิได้ละเอียดมาก ทำให้ควบคุมความเย็นได้แบบพอดีกับร่างกายของแต่ละคนจริงๆ ประโยชน์ก็คือลดการอักเสบของร่างกาย ช่วยลดความเครียดและทำให้หลับสบาย
- ส่วนคนเป็นไมเกรนอย่างเรา รู้สึกตื่นเต้นมากที่รีสอร์ตมี Hyperbaric Chamber หรืออุโมงค์ที่ให้การบำบัดด้วยออกซิเจนบริสุทธ์ 100% ช่วยให้เม็ดเลือดแดงในร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณที่สูง ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการปวดหัว แถมยังช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจนได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่อยากตรวจให้ละเอียดยิ่งขึ้น จะมีตารางนัดเพื่อพบคุณหมอ ตรวจเลือด ตรวจสภาพเส้นผม มันก็บอกโรคหรือความผิดปกติของร่างกายที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้









ปิดท้ายด้วยการพามาดูห้องพัก ที่นี่มีทั้งหมด 134 ห้องพัก ตกแต่งแบบเน้นบรรยากาศผ่อนคลายจากวัสดุไม้ ผสมกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมและความร่วมสมัย เตียงนุ่มสบาย ห้องน้ำที่มาพร้อมลูกเล่นอย่างกระจก ‘see out, not in’ และระเบียงให้ออกไปนั่งชิลรับแสงแดด ก่อนจะออกไปสำรวจเมืองเก่าฮอยอัน ข้อเสียอย่างเดียวของที่นี่ก็คือว่า ภายในโรงแรมมีกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนและใช้เวลากับตัวเองอย่างไม่รู้เบื่อ จนคุณอาจจะต้องแพลนดีๆ ไม่งั้นจะมีเวลาออกไปสำรวจ vibe ของเมืองน้อยลงนะ


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wafaifo.com/ และจองห้องพัก Wafaifo Resort Hoi An พร้อมส่วนลดได้ที่ https://www.trip.com/t/lzAfPutWlR2