เกาะพะงันคือเกาะทางภาคใต้ของไทยในจ. สุราษฏร์ธานี ที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะสมุยและเกาะเต่า แต่คาแร็กเตอร์ของพะงันนั้นโดดเด่นกว่าเกาะรอบข้างหลายเท่า ที่นี่โด่งดังในหมู่ฝรั่งว่าเป็นเกาะฮิปปี้ ดึงดูดเหล่าอาร์ทิสต์ ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ และผู้คนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณรวมถึงเรื่องสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกให้มารวมตัวกัน

ใครที่เคยมาเที่ยวพะงันก็คงจะสัมผัสความรู้สึกบางอย่างได้เช่นกัน ว่าเกาะนี้มี ‘ความรู้สึก’ มากกว่าเกาะอื่น

พะงันเพิ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 3 ของเกาะที่ดีที่สุดในโลกสำหรับฝั่งเอเชีย (The Best Islands in the world) เมื่อปี 2020 จากผลโหวตของผู้อ่านนิตยสารท่องเที่ยวสุดหรูของสหรัฐอเมริกา Condé Nast Traveler รองจากเกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศศรีลังกา แม้คนไทยอาจจะไม่ได้รู้สึกพิเศษกับเกาะนี้เท่าไร แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว ที่นี่มีอะไรให้หลงรักนอกเหนือไปจากฟูลมูนปาร์ตี้อีกมากมาย

ความมหัศจรรย์ก็คือ เกาะพะงันนั้นสร้างขึ้นจากโรสควอตซ์ หินแห่งความรัก ความไว้วางใจ การให้อภัย และความกลมเกลียวในความสัมพันธ์ มันถูกค้นพบครั้งแรกตั้งแต่หลายพันปีก่อน และอย่างที่รู้กันว่าหินนั้นดูดซับพลังงานต่างๆ ในธรรมชาติ สะสมเอาไว้เป็นเวลายาวนาน นั่นทำให้มันสะสมมวลพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ ทั้งด้านบวกและด้านลบ หลายคนจึงเรียกพะงันว่า ‘เกาะคริสตัล’ หรือเกาะที่มีพลัง

บนเกาะพะงันจะแบ่งเป็นสองฝั่งใหญ่ๆ ได้แก่ ฝั่งปาร์ตี้ที่แสนคึกคัก กับฝั่งที่เน้นกิจกรรมทางจิตวิญญาณและความสงบผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นโยคะ การเรียนสมาธิ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพหรือวีแกน ก็แล้วแต่ว่าใครจะมีพลังดึงดูดไปทางไหนหรืออยู่ในอารมณ์ไหนมากกว่า แต่เขาว่ากันว่าพลังบนเกาะนี้มีมากมหาศาล เวลาที่ตัวเรามีพลังบวกเยอะๆ มันก็จะยิ่งเสริมให้เรามีกำลังมากขึ้น แต่ถ้าเรารู้สึกตกต่ำอยู่ มันก็จะยิ่งฉุดให้เราลงต่ำแบบสุดๆ อย่างที่เราเคยเห็นข่าวด้านมืดบนเกาะปรากฏอยู่บ้าง ตั้งแต่การเต้นรำบ้าๆ บอๆ ไปจนถึงเรื่องของมึนเมา ยาเสพติด เซ็กซ์ และอาชญากรรม

สำหรับในทางฮวงจุ้ย หินโรสควอตช์โด่งดังในเรื่องของการเพิ่มพลังงานดึงดูดเสน่ห์ ก่อให้เกิดความสมหวังในความรัก มีการแนะนำให้ตั้งไว้ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่พกชิ้นเล็กๆ ติดตัวไว้เป็นเครื่องราง-เครื่องประดับ แต่สำหรับเกาะพะงัน เราสามารถขุดพบหินโรสควอตช์มากมายได้แถวหาดริ้น ชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ก็แล้วแต่ใครจะโชคดีได้พบเห็น ซึ่งพลังใต้ดินเหล่านั้นก็ยังคงส่งพลังขึ้นมาให้ผู้คนที่มาเยือนเกาะพะงันได้รับความรู้สึกที่ดีและผ่อนคลายอยู่ตลอด แม้จะผ่านวันเวลามาเนิ่นนานแล้วก็ตาม จึงไม่แปลกเลยที่ใครๆ ก็มักจะเดินทางมาบำบัดจิตใจที่นี่

เราไม่รู้ว่าระหว่างหินกับทะเล อะไรมีความมหัศจรรย์มากกว่ากัน

แต่ที่สุดแล้ว มันคงเป็นมนต์ขลังของธรรมชาติที่ทำให้เราอยากจะกลับไปที่เกาะพะงันอีกเรื่อยๆ

นักเขียน/นักดนตรี ที่นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป

1 COMMENT

Leave a Reply