ทริปอิตาลีครั้งล่าสุดกับการนั่งรถบัสผ่านเมืองเล็กเมืองน้อย นั่งรถไฟผ่านเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในแคว้นลิกูเรีย รวมถึงการเช่าบ้านในอิตาลีและคลุกคลีกับเจ้าของบ้านจนทำให้เราแทบจะกลายเป็นคนที่เรียกว่าเพื่อนกันได้ ทำให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมอิตาเลียนมากขึ้น และรู้สึกถึงความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในดินแดนแห่งศิลปะนี้

สำหรับเรา คนอิตาเลียนดูจะมีบุคลิกและนิสัยที่แตกต่างจากฝรั่งประเทศอื่นๆ ในยุโรปแถบนี้ เพราะส่วนใหญ่ฝรั่งที่เราเคยรู้จักมักจะเป็นคนที่วางมาดดี บุคลิกจริงจัง มีความ independent ในตัวเอง แล้วก็มีพิธีรีตองอยู่ประมาณหนึ่ง แต่คนอิตาเลียนกลับดูเฮฮา เฟรนด์ลี่ ทักทายคนแปลกหน้าอย่างจริงใจและพร้อมจะทำความรู้จัก บุคลิกดูสบายๆ ผ่อนคลาย ถึงจะมีความภูมิใจในวัฒนธรรมของชาติตนเองมาก แต่ไม่เหยียดวัฒนธรรมอื่น มีความเปิดกว้าง เปิดรับความแตกต่างได้ไม่ยาก

คนอิตาเลียนรักครอบครัวและผูกพันกันในครอบครัวมากๆ แทบไม่ต่างจากคนไทย ในส่วนของวัฒนธรรมการกินอยู่ก็พิถีพิถัน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมักจะมีฝีมือในการทำอาหาร พวกเขาละเมียดละไมไปซะหมดแม้กระทั่งการแต่งตัว การเลือกใช้ของ จะมีรสนิยมที่ดี ในเมืองเราจะเห็นคนแต่งตัวดีเดินขวักไขว่ ขณะที่บนถนน รถยนต์ไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง แต่แทบทุกคันจะเป็นรถที่มีดีไซน์น่าสนใจ เหมือนกับว่าทุกรายละเอียดจะต้องมีแนวคิดทางศิลปะแฝงอยู่ นำไปสู่นิยามการใช้ชีวิตแบบ La Dolce Vita ที่ดูสวยงามรื่นรมย์ในทุกรายละเอียด นี่คือสิ่งที่เราเห็นมาจริงๆ จากตอนที่เราเดินทางไปที่นั่น

หนึ่งในรถสัญชาติอิตาเลียนที่เราเห็นอยู่บ่อยครั้งตอนอยู่อิตาลี คือ มาเซราติ (Maserati) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ชอบนำชื่อของ ‘ลม’ แห่งเมดิเตอร์เรเนียน มาตั้งเป็นชื่อรุ่นของรถ ไม่ว่าจะเป็น มิสทรัล (Mistral) กิบลี่ (Ghibli) โบร่า (Bora) แคมซีน (Khamsin) เลอวานเต้ (Levante) มาจนถึงเกรคาเล่ (Grecale) ที่มีความหมายว่าเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นรถที่เพิ่งจะเปิดตัวรุ่นใหม่ในประเทศไทยไปเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน

เรามีโอกาสนั่งพูดคุยกับผู้บริหารมาเซราติ ประเทศไทย ถึงกลุ่มคนที่เลือกใช้รถมาเซราติ และเขาเอ่ยถึงอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนที่มีอายุที่ประสบความสำเร็จทางการงานมาแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีความ young at heart หรือความหนุ่มสาวอยู่ในใจ ยังชอบความทันสมัย ชอบอะไรที่แปลกไม่เหมือนใคร ต่อด้วยกลุ่มผู้หญิงที่นิยมกระเป๋าแบรนด์เนม ชอบไลฟ์สไตล์ที่หรูหราและพิถีพิถันกับข้าวของเครื่องใช้ เนื่องจากเบาะหนังของรถมาเซราติใช้วัสดุหนังแท้เกรดพรีเมียม และประณีตในการตัดเย็บ จนทำให้รู้สึกราวกับนั่งอยู่บนกระเป๋าแบรนด์เนมยังไงอย่างงั้น และกลุ่มสุดท้ายก็คือกลุ่ม LGBTQ+ ที่เต็มไปด้วยไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ คนที่มักทำงานเกี่ยวข้องกับวงการออกแบบ ศิลปะ หรือแฟชั่น จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งรถมาเซราติก็ตอบโจทย์ในแง่ของงานดีไซน์สร้างสรรค์ บ่งบอกตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร

อย่างรถเกรคาเล่ (Grecale) ที่ออกแบบมาภายใต้แนวคิด Everyday Exceptional หรือการทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษสำหรับผู้ครอบครอง มันไม่ได้แค่ดูลักชัวรี่ แต่เป็นเอสยูวีที่ดูสง่างาม สะท้อนคอนเซ็ปต์ Italian Audacity หรือความกล้าที่จะแตกต่างในสไตล์อิตาเลียน พื้นที่ใช้สอยด้านในกว้างขวาง นอกจากการใช้หนังแท้พรีเมียม ไม้แท้ และวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แล้ว ก็ยังเป็นครั้งแรกที่มีการใช้นาฬิกาดิจิทัลแทนนาฬิกาทรงรีแบบดั้งเดิม มาพร้อมจอทัชสกรีนอเนกประสงค์เป็นจอคู่ จอบนมีขนาด 12.3 นิ้ว และจอล่าง 8.8 นิ้ว ใหญ่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในรถยนต์ มาเซราติ ผสานความรื่นรมย์ของเสียงดนตรีจากลำโพง Sonus Faber 14 ตำแหน่ง

สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในแบบ ‘Everyday Exceptional’ ของยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นล่าสุด มาเซราติ ‘เกรคาเล่’ ได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูม มาเซราติ ประเทศไทย โครงการเอ-สแควร์ ซอยสุขุมวิท 26 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://Thailand.Maserati.com/ เฟสบุ๊ค: Maserati Thailand

นักเขียน/นักดนตรี ที่นอกจากเล่นเชลโลแล้ว ยังชอบออกเดินทางคนเดียวอยู่เสมอๆ มิวเซียม ตลาดของเก่า ร้านกาแฟ และเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่คือสถานที่ที่เธอชอบไป

Leave a Reply