ชื่อของโรงแรม Four Seasons Chiang Mai นั้นเป็นที่รู้จักในฐานะโรงแรมไฮเอนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลกมานานถึงกว่า 25 ปีแล้วค่ะ หลายคนอาจรู้สึกว่าเป็นโรงแรมหรู และมีราคาเกินกว่าจะเอื้อมถึง แต่ที่จริงแล้ว เราสามารถเข้ามาเยือนที่นี่ได้ด้วยการแวะเข้ามาทานข้าวหรือจิบชายามบ่าย (Afternoon Tea) ก็สามารถเอนจอยกับวิวทุ่งนาหลักล้านและรู้สึกผ่อนคลายได้ไม่แพ้แขกที่เข้าพักในโรงแรมแห่งนี้เลย
โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่ เป็นโรงแรม 5 ดาวแห่งแรกๆ ในเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ที่มีความเป็น global brand แถมยังผสมผสานคัลเจอร์ท้องถิ่น โดยสร้างเป็นลักษณะหมู่บ้านหรือชุมชนเกษตรกรรมแบบไทยๆ มีบ้านหลายๆ แบบอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน โดยตรงกลางมีทุ่งนาขั้นบันไดเป็นไฮไลท์ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งก็ยังอยู่เป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ ใครไปใครมาต้องได้ถ่ายรูปวิวนี้กลับไป ว่ากันว่าช่วงหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวเชียงใหม่เยอะๆ มุมนี้เป็นอะไรที่ฮิตมากๆ
ที่นี่คือหนึ่งในผลงานการดีไซน์ของบิล เบนส์ลีย์ (Bill Bensley) ดีไซเนอร์ที่มีผลงานการออกแบบลักชัวรี่โฮเทลชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก เราจึงไม่แปลกใจเลยที่พอเข้ามาในโรงแรมแล้วเห็นการออกแบบที่ลงตัวในทุกรายละเอียด ทั้งบรรยากาศ และสถานที่ที่สร้างขึ้นให้กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม จนสัมผัสได้ถึงพลังบวกอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ทางเข้าที่เลี้ยวรถจากถนนด้านหน้าเข้ามาเจอกับอุโมงค์ต้นไม้ ก็รู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง โลกแห่งความสงบที่ทำให้เราได้ละจากความเครียดไปชั่วขณะ
- ดูผลงานการออกแบบโรงแรมอื่นๆ ของ Bill Bensley > ใช้ชีวิตลักชัวรี่ในไพรเวทพูลวิลล่า Shinta Mani Angkor ใจกลางเสียมเรียบ
รถเปอโยต์สี Pearl White สุดหรูคันนี้ เป็นรถที่เราเช่าจาก Sixt Rent a Car เพราะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวนอกเมืองด้วยแล้ว การเช่ารถขับในเชียงใหม่ถือเป็นวิธีเดินทางที่ง่ายและสะดวก ยิ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้คนเที่ยวเมืองไทยกันเยอะๆ เราคิดว่ารวมๆ แล้วประหยัดและคุ้มค่ามากเลย แถมยังกำหนดเวลาเองได้ อยากใช้เวลาที่จุดไหนนานเท่าไรก็ตามสบาย อย่างโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่ อยู่แถวแม่ริม ขับรถจากในเมืองใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ความพิเศษคือ Peugeot SUV 5008 โฉมใหม่ป้ายแดงนี้ เป็นรถรุ่นใหม่ที่มีให้เช่าเฉพาะเคาน์เตอร์สาขาสนามบินเชียงใหม่กับสนามบินภูเก็ตเท่านั้น โดยเพิ่งนำมาให้เช่าขับเป็นครั้งแรกที่เชียงใหม่เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 นี่เอง รู้สึก exclusive มากๆ
ที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่ มีห้องอาหารหลายแห่ง เช่น Rim Tai Kitchen เป็นเรือนไทยล้านนาทำจากไม้สัก, KHAO ซึ่งนำอาหารสูตรเก่าดั้งเดิมมานำเสนอในแบบโมเดิร์น และโด่งดังมากๆ กับชุดน้ำชายามบ่าย, Ratree Bar and Lounge เหมือนเป็นพูลบาร์อยู่ตรงใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำหลัก บรรยากาศแคชชวลเหมาะแก่การเอาหนังสือมานั่งอ่านเล่น พร้อมจิบไวน์หรือค็อกเทล แต่ห้องอาหารที่เรามาวันนี้ก็คือ North ซึ่งปกติจะเสิร์ฟเมนูที่ใช้ส่วนผสมแบบ farm-to-table โดย 60% จะมาจากฟาร์มท้องถิ่นทางภาคเหนือของไทยนี่แหละ
ขนมหวานธีม ‘ลูกฟิก’ ในตู้กับข้าวโบราณ
ปกติแล้วชุดชายามบ่ายจะเสิร์ฟที่ห้องอาหาร Khao แต่ด้วยความที่เราไปวันธรรมดา บรรยากาศค่อนข้างสบายๆ เราเลยขอให้เขาเสิร์ฟ Afternoon Tea ที่ห้องอาหาร North ได้ค่ะ จะได้เห็นวิวทุ่งนาสวยๆ ไปด้วย โดย Afternoon Tea จะเริ่มตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป สำหรับเซ็ตนี้มีชื่อว่า Un-fig-getable ราคา 1,200 ++ บาท ต่อเซ็ท สำหรับ 2 คน (ลดจากราคาเต็ม 1,770++บาท) สิ่งที่อยู่ในเซ็ตคือเครื่องดื่มคนละ 1 แก้ว เลือกเป็นชาหรือกาแฟก็ได้ และมีขนมคาวหวานรวม 7 ชนิด มาในคอนเซ็ปต์ตู้กับข้าว น่ารักมากๆ
ขนมต่างๆ ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล อย่างธีมในช่วงที่เดือนพ.ย. ที่เรามานี้ก็จะเป็นธีม ลูกฟิก ซึ่งมีแหล่งที่มาจากสวนลูกฟิกออร์แกนิกในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ห่างจากรีสอร์ทไม่ถึง 45 นาที เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และมีไฟเบอร์สูงที่สุดในบรรดาถั่ว ผักและผลไม้ นอกจากนี้ก็ยังมีวัตถุดิบท้องถิ่นอื่นๆ อย่างน้ำผึ้งแท้จากสุภาฟาร์ม รวมทั้งการนำข้าวเหนียวสันป่าตองมาหมักเพื่อทำข้าวหมาก และเป็นส่วนประกอบหลักของการทำชีสเค้กที่มีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่โดดเด่น ส่วนในช่วงเดือนธ.ค. เขาก็จะเปลี่ยนจากลูกฟิกเป็นสตรอว์เบอร์รี่ เพราะเป็นฤดูกาลที่สตรอว์เบอร์รี่อร่อยที่สุด
สโคนที่ดีที่สุดในเชียงใหม่
เชฟขนมหวานที่ดูแลเรื่อง Afternoon Tea คือเชฟญาณิศา เวียงนนท์ ถึงจะเป็นคนไทยค่ะแต่เชี่ยวชาญเรื่องช็อกโกแลตมาก รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานกับเชฟชาวต่างชาติมานาน จึงพิถีพิถันในเรื่องวัตถุดิบ เช่นเนยจะใช้เนยฝรั่งเศส มีกลิ่นหอม ช็อกโกแลตก็ใช้ Valrhona ซึ่งเป็นช็อกโกแลตพรีเมียมของฝรั่งเศส เราเองได้ลองชิมช็อกโกแลตคาราเมลมูส ต่อด้วยชูครีมไวท์ช็อกโกแลตลูกฟิก ชีสเค้กราสป์เบอร์รี่ลูกฟิก ฟิกฮันนีครัมเบิล ขนมปังไส้กรอกและลูกฟิก รวมไปถึงชิ้นเด็ดคือ สโคนฟิก ที่เขากล้าบอกว่าเป็นสโคนที่ดีที่สุดในเชียงใหม่ มาพร้อมคลอตเต็ดครีมโฮมเมดและแยมลูกฟิก รู้สึกรสชาติไม่หวานเกินไป หอมละมุนลิ้นสุดๆ มีความสดของลูกฟิกในทุกๆ คำที่กัดเข้าไปเลย ยิ่งได้เห็นวิวทุ่งนาแบบ 360 องศาไปด้วย ยิ่งรู้สึกถึงความชิลขั้นสุด
ช่วง 5 โมงเย็นของทุกวัน เขาจะมี Farmer Parade หรือพาเหรดชาวนาที่มาเดินแถวกันร้องรำทำเพลง เหมือนกับในสมัยก่อนที่พอชาวบ้านทำนาเสร็จ เขาก็จะเดินกลับบ้านกันเป็นแถว จากนั้นพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ กลายเป็นสีส้มและเคลื่อนลงต่ำจนลับทิวเขาด้านหลังไป เป็นภาพที่สวยงามมากๆ
ก่อนกลับ เราแวะไปลองทำสปาที่ วรา ชีวา สปา (Wara Cheewa Spa) เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โด่งดังของ Four Seasons Chiang Mai ที่นี่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ และเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัดไทยโบราณทางภาคเหนือ มีกลิ่นอายของเสน่ห์ล้านนา เคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนถึงกับเดินทางมาเพื่อดูอาคารนี้โดยเฉพาะเลย
ที่นี่มีสปาทรีตเมนต์หลากหลายมาก ทั้งสครับ นวด และดูแลผิวหน้า โดยเน้นเรื่องการปรับสมดุลจากภายใน และวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการทำทรีตเมนต์ก็จะเป็นวัตถุดิบท้องถิ่น ผสมผสานกับคัลเจอร์
เราได้ลองหนึ่งในทรีตเมนต์ซิกเนเจอร์ที่เป็นที่นิยมของที่นี่ นั่นคือ Oriental Blend Massage ซึ่งเป็นทรีทเมนต์เมนูในหมวด Nutritive Wellbeing เน้นการบำรุงร่างกายด้วยพลังในการรักษาของธรรมชาติ ด้วยการนวดน้ำมันหอมระเหย มอบความชุ่มชื้นกลับสู่ผิว โดยเทคนิคการนวดแบบเบามือและอ่อนโยน ผสานเข้ากับการนวดกดจุดแบบตะวันออกเพื่อการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แบบทั้งระดับผิวและระดับพลังงานภายใน ไม่ใช่แค่ผ่อนคลายแต่ยังรักษาอาการปวดเมื่อยได้ตรงจุด สบายตัวมากๆ เลย
การแวะเข้ามาที่โฟร์ซีซั่นส์ เชียงใหม่ ครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการเข้ามาให้ธรรมชาติบำบัดอย่างแท้จริง ทั้งวิวสีเขียวของทุ่งนา สายลมที่ปะทะหน้า การดูพระอาทิตย์ตกที่เหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อม อาหารและขนมที่ทำจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ไปจนถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากส่วนผสมของสปา ที่สร้างความผ่อนคลายจนเราไม่อยากลุก หวังว่าคราวหน้าที่มาเที่ยวเชียงใหม่ คงจะได้มีโอกาสแวะมาพักที่นี่สักครั้ง
Four Seasons Resort Chiang Mai
ตั้งอยู่บนถนนแม่ริม-สะเมิง
- Afternoon Tea ห้องอาหารข้าว เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึงเวลา 17.00 น. สามารถเลือกที่นั่งได้ทั้งในห้องปรับอากาศและแบบเปิดโล่ง
- วรา ชีวา สปา เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 09:00 น. – 19:00 น. โทร. 053-298-181
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.fourseasons.com/chiangmai/ หรือ Facebook: FourSeasonsResortChiangMai
——————————————
Travel Tips
รีวิวครั้งแรกของการขับรถ Peugeot SUV 5008 แม้จะเป็นรถคันใหญ่ 7 ที่นั่ง แต่ผู้หญิงตัวเล็กอย่างเราสามารถขับได้ง่ายและสบายมาก
- มีโหมดการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ตั้งแต่ Normal, ESP Off Mode, Sand Mode, Mud Mode ไปจนถึง Snow Mode พร้อมระบบควบคุมการลงทางลาดชัน และควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ให้เราลุยได้บนทุกสภาพถนนในเชียงใหม่
- สิ่งที่ชอบมากคือดีไซน์หรูหราในห้องโดยสาร ใช้เบาะหนังแท้สีดำ พื้นที่กว้างขวาง ด้านหลังวางกระเป๋าเดินทางและของต่างๆ ได้เยอะแยะ
- มีหลังคาซันรูฟให้เราได้เปิดรับอากาศเย็นๆ ในหน้าหนาวของเชียงใหม่ได้
- แล้วก็มี Apple Car Play ให้เราเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อฟังเพลงโปรดจากในเครื่องหรือรับสายโทรศัพท์ได้เลย
- นอกจากนี้ตรงที่พักแขนยังมีช่องแช่เย็นความจุ 1 ลิตรให้เราใส่แก้วเครื่องดื่มเพื่อรักษาความเย็นสดชื่นไว้ตลอดได้ด้วยนะ เป็นรถที่เหมาะกับนักเดินทางจริงๆ ค่ะ
ราคาเช่ารถ Peugeot SUV 5008 กับ Sixt Rent a Car เริ่มต้นเพียงวันละ 1,799 บาท/วัน จองได้ที่ https://sixtthailand.com หรือ Call Center 1798